"หมอ"ถามหาวินัย"คนผวา"ติดเชื้อโควิด-19

2021-04-19 11:50:12

"หมอ"ถามหาวินัย"คนผวา"ติดเชื้อโควิด-19

Advertisement

"หมอ" ถามหาวินัย "คนกลัว" ติดเชื้อโควิด-19 เตือนคุมไม่อยู่อาจเกิดอาจแพร่ระบาดครั้งใหญ่

"หมอ"ย้ำ"วัคซีนต้านโควิด"ช่วยสกัดระบาดใหญ่

สธ.ยันข่าวปลอม"แอสไพริน"ฆ่าเชื้อ"โควิด"

"หมอ-พยาบาล"เหนื่อยใจ"ผู้ติดเชื้อโควิด"แหกกฎ

เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ถ้าจะกลัวเรื่องสายพันธุ์ ต้องถามตัวเองว่าขณะนี้ยังมีวินัยรักษาระยะห่างหรือไม่ เท่านั้นก็พอครับ การที่กล่าวถึงสายพันธุ์ใหม่จากอังกฤษ และอย่างที่องค์การอนามัยโลกก็ออกมาเตือน ไวรัสกลายพันธุ์คู่ชอง อินเดีย และเราก็ทราบแล้วว่า ฟิลิปปินส์เป็นกลายพันธุ์คี่ คือ 3 และมีอีกหลายท่อนที่เปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมไปอย่างมโหฬาร ทั้งนี้ทั้งหลายทั้งปวงเกิดจากการปล่อยให้มีการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งไวรัสมีการผันแปรของรหัสพันธุกรรม การศึกษาที่รองรับเรื่องการผันแปรของรหัสพันธุกรรมว่ามีผลจริงๆ คือ ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าการผันแปรดังกล่าวส่งผลทำให้เกิดมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจริง หรือที่เรียกว่า Functional mutations เช่น รายงานจากประเทศจีน ในเดือน มี.ค. และ เม.ย.2563 ระบุว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อ 11 ราย มีการผันของรหัสพันธุกรรมในตำแหน่งต่างๆ ของยีนของไวรัส อู๋ฮั่น อย่างน้อย 33 แห่ง และเมื่อนำไวรัสไปศึกษาในเซลล์เพาะเลี้ยงพบว่า มีการเพิ่มจำนวนได้มากกว่าเดิมเป็น 100 เท่า หรือทำการศึกษาในหนูแฮมสเตอร์ หรือ ในตัวมิ้งค์ ที่มีการติดเชื้อโควิด-19 จากคน และมีการแปรรหัสพันธุกรรมจนเป็นลักษณะเฉพาะตัวของมิ้งค์ และทำให้เกิดโรคได้หลายอวัยวะ เป็นต้น และมิ้งค์รวมทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ที่ติดเชื้อจากคน ก็สามารถส่งเชื้อกลับมายังคนได้ แต่ในปัจจุบันอาการน้อยมากหรือไม่รุนแรงเลย




ทั้งนี้การผันของรหัสพันธุกรรมของไวรัสในท่อนต่างๆ แม้จะอยู่ใน assemblage หรือ clade หรือที่ชอบเรียกว่า "สายพันธ์" เดียวกัน ส่งผลให้มีการติดเชื้อซ้ำซ้อนครั้งที่สองได้ แม้ว่าห่างกันจากการติดเชื้อครั้งแรกเพียง 6 สัปดาห์ โดยการติดเชื้อครั้งที่สองมีความรุนแรงกว่าครั้งแรก การสรุปว่าติดได้เก่งขึ้น หรือรุนแรงขึ้น จำเป็นที่ต้องพิจารณาถึงปัจจัยร่วมอย่างอื่นในจุดผันแปรย่อยๆ ของยีนของไวรัสทั้งหมดด้วย และต้องประกอบกับลักษณะของมนุษย์ที่ติดเชื้อแต่ละบุคคล ปัจจัยด้อยที่ทำให้เปราะบางและมีการให้การรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ทันท่วงทีหรือไม่ แต่ตัวที่ "ร้ายกาจที่สุด" ที่ทำให้ควบคุมไม่อยู่ คือ พฤติกรรมไม่ระวังตนเอง มีการแพร่และการรับเชื้ออย่างง่ายดาย ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ทำให้แพร่ระบาดวิบัติ การผันแปรรหัสพันธุกรรม จะนำไปสู่การติดเชื้อใหม่ได้ การฉีดวัคซีนไม่ได้ผล และอาจส่งผลไห้การตรวจหาเชื้อด้วยกระบวนการพีซีอาร์ไม่เจอด้วย