ผู้นำสหรัฐอเมริกา และผู้นำญี่ปุ่น ตกลงยกระดับ ความร่วมมือด้านความมั่นคงทวิภาคี เพื่อรับมือความท้าทายจากจีน ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เปิดทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ต้อนรับนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ผู้นำญี่ปุ่น เมื่อวันศุกร์ โดยซูงะนับเป็นผู้นำรัฐบาลต่างชาติคนแรก ที่เดินทางเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ไบเดนสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา
การหารือที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ นอกเหนือจากการส่งเสริมความร่วมมือระดับทวิภาคีแล้ว ประเด็นจีนเป็นอีกหัวข้อสำคัญ โดยสหรัฐต้องการให้ญี่ปุ่นเป็นตัวแทน แสดงบทบาท ตามแผนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ผู้นำทั้งสองยังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ จุดร้อนด้านภูมิรัฐศาสตร์หลายแห่งในทวีปเอเชีย รวมถึงช่องแคบไต้หวัน ซึ่งซูงะกล่าวว่า ญี่ปุ่นสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพ ในช่องแคบไต้หวัน
หลังการพบปะ ไบเดนเผยต่อสื่อมวลชน ว่า การหารือกับผู้นำญี่ปุ่น เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ สหรัฐให้คำมั่นสนับสนุนการดำเนินงานของโตเกียวอย่างเต็มที่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคง ที่มีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือเผชิญความท้าทายจากจีน ในทะเลจีนตะวันออก ทะเลจีนใต้ และเกาหลีเหนือ
ทางด้านสื่อญี่ปุ่นหลายสำนัก รายงานว่า นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ที่ผู้นำสหรัฐและผู้นำญี่ปุ่น หารือกันเกี่ยวกับไต้หวัน และมีการออกแถลงการณ์ร่วม อย่างเปิดเผยในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นชุดปัจจุบัน ภายใต้การนำของซูงะ ถูกวิจารณ์จากกลุ่มชาติพันธมิตร รวมถึงสหรัฐ ว่า ยังไม่มีท่าทีแข็งกร้าวเพียงพอ ต่อปัญหาสิทธิมนุษยชนในจีน และสถานการณ์ปราบปรามกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง.