"ซูเปอร์โพล" ชี้ ปชช.ต้องการ "ผู้นำ" รับฟังความทุกข์บาก มุ่งแก้ปัญหาปากท้องช่วงวิกฤตโควิด
ศบค.เผยยอดโควิดพุ่งพรวด 789 ราย ดับ 1
ฟันธง"กัมพูชา"เกี่ยวโยงสถานบันเทิงทำ"โควิด"ระบาดหนัก
ระทึก!แผ่นดินไหวขนาด 2.6 เขย่า"เขื่อนวชิราลงกรณ"
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง โควิดแบบนี้ ผู้นำต้องแบบไหน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,475 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5-9 มี.ค.ที่ผ่านมาพบว่า ที่น่าพิจารณา คือ เสียงของประชาชนต่อความต้องการเร่งด่วนจากรัฐบาล ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.2 ระบุว่า แก้ปัญหาปากท้องและความยากจน รองลงมา คือ ร้อยละ 75.8 แก้ปัญหาเศรษฐกิจภาพใหญ่ของประเทศ และร้อยละ 52.9 ระบุว่า ปฏิรูประบบราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐไม่กระตือรือร้น ขณะที่ร้อยละ 44.4 ระบุว่า ลดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม และร้อยละ 44.1 ระบุว่า ปฏิรูปการศึกษา เมื่อถามถึงผู้นำประเทศที่ประชาชนไม่ต้องการ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 91.4 ระบุว่า กอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัว ครอบครัว เครือญาติและพวกพ้อง รองลงมาร้อยละ 91.1 ระบุว่า เป็นนายกรัฐมนตรีที่หนีคดีคอร์รัปชั่น ร้อยละ 90.1 ระบุว่า อยู่เบื้องหลังล้มล้างสถาบันหลักของชาติ ร้อยละ 89.7 ระบุว่า ทุจริตคอร์รัปชั่น ร้อยละ 89.2 ระบุว่า แทรกแซงองค์กรอิสระ ร้อยละ 88.7 ระบุว่า ทำให้คนในชาติแตกแยก ร้อยละ 88.3 ระบุว่า ขายสมบัติชาติให้ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศมหาอำนาจ ร้อยละ 87.8 ระบุว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อน
ที่น่าสนใจ คือ ผู้นำประเทศที่ประชาชนต้องการในวิกฤตโควิดแบบนี้ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 90.5 ระบุว่า ต้องแก้ปัญหาปากท้องและความยากจนได้ ร้อยละ 90.0 ระบุว่า เสียสละ อดทน ยอมแบกภาระไว้กับตนเอง ร้อยละ 89.9 ระบุว่า คุมม็อบอยู่ ไม่สูญเสีย ร้อยละ 89.8 ระบุว่า ใจซื่อ มือสะอาด ซื่อสัตย์ สุจริต ร้อยละ 89.5 ระบุว่า จงรักภักดี ปกป้องสถาบัน และร้อยละ 89.2 ระบุว่า ฟังเสียงประชาชน ร้อยละ 89.2 เช่นกันระบุว่า รู้จักใช้คนเก่ง ร้อยละ 89.0 ระบุว่า เด็ดขาด กล้าได้กล้าเสีย ในขณะที่ร้อยละ 88.5 ระบุว่า ไม่กอบโกยผลประโยชน์ให้ครอบครัว เครือญาติ และพวกพ้อง และร้อยละ 87.1 ระบุว่า ปฏิรูปการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐและราชการ รวดเร็วฉับไว ไม่เกียร์ว่างหลบมุม
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลเสียงของประชาชน "ไม่ได้เกินจริง" ที่ปัญหาปากท้อง ความยากจน และความปลอดภัยในยุคโควิด-19 เป็นอันดับแรก ที่ประชาชนยังต้องการผู้นำประเทศที่มีวิสัยทัศน์ ใจซื่อ มือสะอาด เด็ดขาดปกป้องสถาบัน และรับฟังเสียงประชาชนในการแก้ปัญหา "กินอิ่ม นอนหลับ" ขณะที่อีกด้านหนึ่งสะท้อนได้อย่างน่าสนใจถึงผู้นำไม่พึงประสงค์ คดโกง แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม สร้างความแตกแยก มีประโยชน์ทับซ้อนและเอื้อพวกพ้องตนและชนชั้นนำ จนประเทศชาติเสียหาย และประโยชน์ตกไม่ถึงประชาชนรากหญ้า ดังนั้น "ผู้นำ" ยังเป็นความหวังสำคัญของประชาชนในยามวิกฤติที่ประชาชนอยากให้ ถือธงนำด้านนโยบายและลงดาบข้าราชการเกียร์ว่าง เร่งแก้ปัญหาที่ถูกสะท้อนผ่านประชาชนในทุกมิติ ขับเคลื่อนมาตรการเยียวยาและเสริมความเข้มแข็งประชาชนครอบคลุมทุกกลุ่มที่กำลังเดือดร้อนในวิกฤตโควิดนี้ ให้ลงถึงประชนรากหญ้าที่มีรายได้น้อย เช่น มาตรการคนละครึ่ง ควรลงถึงร้านค้าหาบเร่แผงลอย มาตรการทางกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างที่สามารถปลดล็อคให้เงินไหลลงไปที่วิสาหกิจชุมชนร่วม 8 หมื่นแห่งครอบคลุมรากหญ้าผู้มีรายได้น้อย การพักชำระหนี้ รวมถึงส่งเสริมความเข้มแข็งเกษตรกรให้สามารถเข้าถึงการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่สำคัญ คือ ต้องเอาคนดีและเก่งมาใช้งาน เปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่รัฐเกียร์ว่างและขับเคลื่อนระบบราชการที่เดินไม่เต็มสูบซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของรัฐ แต่ยังสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้