โฆษกรัฐบาลยันไทยไม่ได้อยู่ในสถานะความเสี่ยงทางการคลัง ไม่มีแนวคิดขึ้น VAT เพิ่มภาระ ปชช.
"ลูกจ้าง"เฮลั่นถูกรางวัลที่ 1 รับทรัพย์ 12 ล้าน
เกือบโบ๋ ! “ฮาย อาภาพร” เฮงกรุบๆ 10 ใบ หลังทุ่มเกือบ 3 หมื่น ลั่นรอดตายเหมือนควายขวิด
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงสถานการณ์เศรษฐกิจจากการรายงานความเสี่ยงทางการคลัง ว่า สื่อมวลชนอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนในหัวข้อที่กระทรวงการคลังมารายงานเรื่องความเสี่ยงทางการคลังประจำปี 2563 ซึ่งเป็นการรายงานประจำปีปกติอยู่แล้ว เป็นข้อกฎหมาย ตามมาตรา 78 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่กำหนดไว้ว่า เดือน มี.ค.ของทุกปีกระทรวงการคลัง ต้องแสดงผลการประเมินความเสี่ยงและผลการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐ เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยง เป็นการรายงานปกติประจำปี ไม่ใช่เพราะประเทศไทยเกิดความเสี่ยงทางการคลังแล้วมารายงาน ทั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาล แต่ส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของเอกชน และบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ก็มีคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ที่จะรายงานให้รับทราบถึงสถานกาณร์ต่างๆ จึงขอให้เข้าใจตรงกัน ไม่ใช่เพราะประเทศไทยอยู่ในสถานะต้องดูแลความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปรายงานประเมินความเสี่ยงครั้งนี้กระทรวงการคลังแจ้งว่า สถานการณ์ยังอยู่ในระดับปกติ และสอดคล้องความน่าเชื่อถือพันธบัตรของรัฐบาลก่อนที่เกิดแพร่ระบาดโควิด-19 นอกจากนี้กระทรวงการคลังได้พูดถึงยอดการจัดเก็บรายได้ในช่วง 5 เดือนแรก ปีงบประมาณ 2564 ซึ่งถือว่าไม่น่าประหลาดใจที่การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า เพราะสถานะเศรษฐกิจที่หดตัวจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งจากการขยายเวลาชำระภาษีอีกด้วย ทำให้รายได้ภาษีบางส่วนเดือน ก.พ. มีการย้ายไปชำระในเดือน มี.ค. ปี 64 แทน และยืนยันในส่วนภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT รัฐบาลยังไม่มีแนวคิดปรับเพิ่มจากปัจจุบัน 7 เปอร์เซ็นต์ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของประชาชน