1 เม.ย.ครบรอบ 2 เดือน กองทัพเมียนมานำโดย พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ก่อรัฐประหารยึดอำนาจ จากรัฐบาลพลเรือนที่นำโดยนางออง ซาน ซูจี ทำให้เกิดการประท้วงต่อต้านรุนแรงทั่วประเทศ จำนวนผู้ประท้วงเสียชีวิต จากการปราบปรามของหน่วยความมั่นคง ในวันครบรอบ 2 เดือนอยู่ที่ 536 คน รวมถึงเด็กอย่างน้อย 43 คน
สถานการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐประหาร ในเมืองต่างๆ ทั่วเมียนมา เมื่อวันพฤหัสบดี (1 เม.ย.) ส่วนใหญ่การชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบ ขณะที่องค์กรเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมา ในนาม สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง หรือ เอเอพีพี เผยว่า จำนวนผู้ประท้วงที่ถูกยิงเสียชีวิต นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 536 คน บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน
ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชน เซฟ เดอะ ชิลเดรน (Save the Children) เผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการประท้วง รวมถึงเด็กอย่างน้อย 43 คน ตอนนี้เมียนมากำลังอยู่ในสถานการณ์ฝันร้าย (nightmare situation) โดยเด็กอายุน้อยที่สุด ที่เสียชีวิตจากการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง เท่าที่ทราบ เพียงแค่ 6 ขวบ
ขณะเดียวกัน นางออง ซาน ซูจี และผู้นำระดับสูงของรัฐบาลพลเรือนอีก 4 คน ถูกเพิ่มข้อหาใหม่ “ละเมิดกฎหมายความลับของทางราชการ” โดยการตั้งข้อหา ซึ่งกฎหมายกำหนดโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 14 ปี มีขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เพิ่งถูกเปิดเผย
ข้อหาใหม่ซูจี เป็นการเพิ่มจากข้อหาเก่า ครอบครองอุปกรณ์การสื่อสารแบบวอล์คกี้-ทอล์คกี้ โดยผิดกฎหมาย ละเมิดข้อจำกัดมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในระหว่างการเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว และข้อหาตีพิมพ์เผยแพร่ข้อมูล ที่อาจสร้างความหวาดกลัว หรือตื่นตระหนกต่อสาธารณชน
ทางด้านทูตพิเศษองค์การสหประชาชาติประจำเมียนมา กล่าวเตือนในวันเดียวกันนี้ว่า เมียนมากำลังเสี่ยงต่อการนองเลือด เข้าสู่ภาวะ “สงครามกลางเมือง”ขณะที่การปราบรามกลุ่มผุ้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย หนักหน่วงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
คำเตือนมีขึ้นขณะที่การสู้รบระหว่างทหารกองทัพรัฐบาลเมียนมา กับกองกำลังชนกลุ่มน้อย ปะทุขึ้นอีกในหลายรัฐ รวมถึงในรัฐกะเหรี่ยง ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ติดเขตแดนไทย ซึ่งเครื่องบินรบของกองทัพรัฐบาล ทิ้งระเบิดโจมตีเหมืองทองคำแห่งหนึ่ง ที่อยู่ภายในอาณาเขตยึดครองของกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ เคเอ็นยู (The Karen National Union: KNU) เมื่อวันอังคาร ส่งผลให้ชาวบ้านและนักรบเคเอ็นยูเสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน โดยกองทัพเมียนมาปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี เพื่อตอบโต้ที่เคเอ็นยูบุกโจมตีฐานทหารในพื้นที่ สังหารทหารอย่างน้อย 10 นาย และควบคุมตัว 8 นายเป็นตัวประกัน
นอกจากนั้นยังมีรายงานการสู้รบ ในรัฐกะฉิ่น ทางภาคเหนือสุด ติดเขตแดนจีน ระหว่างทหารกองทัพรัฐบาลเมียนมา กับนักรบกบฏชนกลุ่มน้อยท้องถิ่น ในนาม กองทัพเอกราชกะฉิ่น หรือ เคไอเอ (Kachin Independence Army : KIA) หนึ่งในกบฏทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศ เมื่อวันพุธ ส่งผลให้ทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 20 นาย รถบรรทุกทหารถูกเผาทำลาย 4 คัน ส่วนฝ่ายเคไอเอไม่มีรายงานความสูญเสีย.