ตร.แจ้งเพิ่ม 4 ข้อหา"การ์ดวีโว่"พังรถชิงตัวเพื่อน

2021-03-31 14:20:14

ตร.แจ้งเพิ่ม 4 ข้อหา"การ์ดวีโว่"พังรถชิงตัวเพื่อน

Advertisement

ตร.แจ้งข้อหาเพิ่ม "การ์ดวีโว่" ฐานขัดขวาง-ทำร้ายเจ้าพนักงาน จากการชุมนุมหน้าศาลอาญา

"อัยการ"สั่งฟ้อง"เอกชัย"พร้อมพวก ขวางขบวนเสด็จ

"ธัญวัจน์" ติงนายกฯไม่พอใจผู้สื่อข่าวนั่งไขว่ห้าง

"ธนกร" วอนเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม ศาลอ่านคำพิพากษา 2 เม.ย.




เมื่อวันที่ 31 มี.ค. จากกรณี กลุ่มการ์ดวีโว่ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมบริเวณลานจอดรถศูนย์การค้าเมเจอร์ รัชโยธิน หลังก่อเหตุสกัดกั้นรถควบคุมผู้ต้องหา จนเป็นเหตุให้ตำรวจไม่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด กลุ่มการ์ดวีโว่ 45 รายซึ่งถุกออกหมายเรียก ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อรับทราบข้อหาเพิ่มเติมอีก 4 ข้อหา ประกอบด้วย มียุทธภัณฑ์ทางทหารไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ยุทธภัณฑ์, มีวิทยุสื่อสารไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน และต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงาน โดยภายใน สน.มีการตั้งจุดตรวจคัดกรองโควิด-19 พร้อมวางแผงเหล็กหน้าทางเข้าสถานีตำรวจ นอกจากนี้ยังมีการติดป้ายแจ้งเตือนพื้นที่ควบคุมพิเศษ โดยห้ามนำสิ่งของทุกชนิดเข้าพื้นที่ควบคุมรวมถึงป้ายข้อความต่างๆ เพราะอาจเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบ


พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.พหลโยธิน กล่าวว่า วีนนี้ได้นัดหมายกลุ่มการ์ดวีโว่ ให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมใน 4 ข้อหา คือ มียุทธภัณฑ์ทางทหารไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีวิทยุสื่อสารไว้ในครอบครอง, ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่นำหลักฐานต่างๆ ที่ตรวจยึดได้จากที่เกิดเหตุ เช่น พลุ, ประทัด, ดอกไม้ไฟ, วิทยุสื่อสาร และของกลางอื่นๆ ไปตรวจพิสูจน์ และรายงานผลกลับมาประกอบการพิจารณาดำเนินคดี แต่เนื่องจากผู้ต้องหาแต่ละคนมีพฤติการณ์กระทำผิดไม่เหมือนกัน จึงต้องแยกแจ้งข้อกล่าวหาไปตามข้อเท็จจริงที่ตำรวจพิสูจน์ได้ จากนั้นจะอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ระหว่างรอประกอบสำนวนคดี ก่อนนำตัวส่งพนักงานอัยการ ให้พิจารณาคำสั่งฟ้องต่อไป สำหรับผู้กระทำผิดในคดีนี้พบว่า ในวันเกิดเหตุวันที่ 6 มี.ค. มีผู้ถูกจับกุม 18 คน หลบหนีได้ 30 คน ก่อนที่ผู้ที่หลบหนีจะทยอยเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี ต่อมาตำรวจได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา 26 คน ให้เข้ารับทราบข้อหาฐานเป็นอั้งยี่ซ่องโจร, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ