ศาลสั่งคุก!"อดีตนักฟุตบอลไทยลีก"ล้มบอล

2021-03-18 19:20:10

ศาลสั่งคุก!"อดีตนักฟุตบอลไทยลีก"ล้มบอล

Advertisement

ศาล สั่งจำคุก "อดีตนักฟุตบอลไทยลีก" พร้อมพวก 1-5 ปี ฐานล้มบอลล็อกผลการแข่งขัน

"อานนท์"สั่งเสียหากตายในคุกให้เอาศพไปไว้หน้าศาล

ลุ้น"บิ๊กตู่"ประชุม"ศบค."ถกปมสาดน้ำช่วงสงกรานต์

ททท.จ่อยื่น ครม.เคาะ"เราเที่ยวด้วยกัน"เฟส 3

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. จากกรณี ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษาคดีล้มบอลไทยลีก ฤดูกาล 2017 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายธีรจิตร หรือ เก๋ สิทธิศุข จำเลยที่ 1, นายเชิดศักดิ์ หรือจ่อย บุญชู อายุ 48 ปี ผอ.สโมสรศรีสะเกษ จำเลยที่ 2, นายภาคภูมิ พันธ์นิกุล จำเลยที่ 3, นายมานิตย์ โกมลวัฒนะ จำเลยที่ 4, นายวัลลภ สมาน จำเลยที่ 5, นายกิตติภูมิ ปาภูงา อดีตนักฟุตบอล จำเลยที่ 6, นายภุมรินทร์ คำรื่น ผู้ตัดสินฟีฟ่า 2017 จำเลยที่ 7, นายวีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตูทีมนครราชสีมา มาสด้าเอฟซี จำเลยที่ 8, จ.อ.เสกสันต์ ชาวทองหลาง นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี จำเลยที่ 9, จ.ท.สุทธิพงษ์ เหลาพร นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี จำเลยที่ 10, จ.ท.สุวิทยา นำสินหลาก นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี จำเลยที่ 11, นายณรงค์ วงษ์ทองคำ ผู้รักษาประตูทีมราชนาวี เอฟซี จำเลยที่ 12, ส.อ.ธีรชัย งามเจริญ นักฟุตบอลทีมศรีสะเกษ เอฟซี จำเลยที่ 13, นายทศพร เขม็งกิจ นักฟุตบอลทีมศรีสะเกษ เอฟซี จำเลยที่ 14 และนายเอกพันธ์ จันดากรณ์ อดีตนักฟุตบอลทีมศรีสะเกษ เอฟซี จำเลยที่ 15




โดยมีข้อกล่าวหา คือ ร่วมกันให้หรือขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่นักกีฬาอาชีพ หรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้นักกีฬาอาชีพกระทำการล้มกีฬา, ร่วมกันให้ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้ตัดสินหรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขัน หรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม, เป็นผู้ตัดสินเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเพื่อทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขัน หรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม, ร่วมกันและเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเพื่อให้กระทำการล้มกีฬา, ร่วมกันลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต


หลังศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้วเห็นว่า โจทก์มีพยานหลักฐานแน่นหนาทั้งพยานบุคคลเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลักฐานการใช้ติดต่อโทรศัพท์ และข้อความการสนทนาทางแอพพลิเคชันวีแชท จึงพิพากษาจำคุก นายธีรจิตร อดีตผู้ช่วยผู้ตัดสินหรือไลน์แมน จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 5 ปี และปรับ 2,000 บาท, จำคุกนายเชิดศักดิ์ อดีต ผอ.สโมสรศรีสะเกษฯ จำเลยที่ 2 เป็นเวลา 4 ปี ปรับ 2,500 บาท, จำคุก นายภาคภูมิ จำเลยที่ 3 เป็นเวลา 4 ปี ปรับ 2,000 บาท, จำคุก นายมานิตย์ จำเลยที่ 4 เป็นเวลา 4 ปี ปรับ 2,000 บาท, จำคุกนายวัลลภ จำเลยที่ 5 เป็นเวลา 2 ปี ปรับ 2,500 บาท, จำคุก นายกิตติภูมิ จำเลยที่ 6 เป็นเวลา 2 ปี ปรับ 1,500 บาทฅ จำคุกนายภุมรินทร์ จำเลยที่ 7 เป็นเวลา 2 ปี, จำคุกนายวีระ จำเลยที่ 8 เป็นเวลา 1 ปี, ส่วน จ.อ.เสกสันต์ จำเลยที่ 9, จ.ท.สุทธิพงษ์ จำเลยที่ 10, จ.ท.สุวิทยา จำเลยที่ 11 และ นายณรงค์ จำเลยที่ 12 สั่งจำคุกคนละ 2 ปี ขณะที่ ส.อ.ธีรชัย จำเลยที่ 13, นายทศพร จำเลยที่ 14, นายเอกพันธ์ จำเลยที่ 15 ศาลจำคุกคนละ 1 ปี โดยภายหลังศาลพิพากษา ญาติ และทนายความได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา เพื่อต่อสู้ทางคดีระหว่างการยื่นอุทธรณ์คดีดังกล่าว