รวบ! กิ๊กหนุ่มหัวร้อน บุกฉุดสาวต่อหน้าลูก

2021-03-18 14:50:56

รวบ! กิ๊กหนุ่มหัวร้อน บุกฉุดสาวต่อหน้าลูก

Advertisement

รวบแล้ว! กิ๊กหนุ่มหัวร้อนบุกฉุดสาวต่อหน้าลูก บังคับพาหลบหนี

วันที่ 18 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท พร้อมด้วยชุดสืบสวน ภ.จว.ชัยนาท เข้าตรวจสอบที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.2 ต.เขาท่าพระ อ.เมือง จ.ชัยนาท หลังจับแจ้งว่ามีเหตุบังคับฉุดหญิงสาวพาตัวขึ้นรถหลบหนีไป โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่ไม่ให้ใครเข้าขัดขวาง โดยนายเอ (นามสมมติ) ลูกชายของผู้ที่ถูกจี้บังคับพาตัวไป เล่าว่า หญิงดังกล่าวคือ น.ส.นฤมน อายุ 36 ปี ผู้เป็นแม่ และคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายสุรศักดิ์ หรือโฮม อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นชายที่มาติดพัน น.ส.นฤมน ประมาณ5-6 เดือน โดยไปๆ มาๆ ระหว่าง 2 บ้าน เพราะบ้านที่เกิดเหตุ น.ส.นฤมนเองก็ยังอยู่อาศัยกับสามีเก่าด้วย

พ่อตาสุดทน ยิงดับ! ลูกเขยเป็นชู้แม่ยาย

พักการเรียน! 8 นักเรียนก่อเหตุชกต่อย ผอ.โรงเรียนยัน กลุ่มเด็กดังกล่าวไม่ใช่อันธพาล

ตั้งกรรมการสอบ! ครูฝึกลูกเสือโหด ญาติยันหากประมาท เอาเรื่องถึงที่สุด (คลิป)





ช่วงเกิดเหตุ นายสุรศักดิ์มากับเพื่อนรุ่นน้อง ชื่อนายพงศ์รินทร์ อายุ19 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่สามี น.ส.นฤมน ออกไปทำงาน โดยนายเอลูกชายให้การว่า นายพงศ์รินทร์ซึ่งเป็นคนซ้อน ใช้อาวุธปืนสั้นสีน้ำตาล ลักษณะคล้ายปืนไทยประดิษฐ์ออกมาข่มขู่ก่อนมีการฉุดกระชาก น.ส.นฤมนขึ้นรถจักรยานยนต์สีแดงดำ โดยมีนายพงศ์รินทร์นั่งประกบขับหลบหนีไป

หลังเกิดเหตุลูกชายได้พยายามติดต่อนายสุรศักดิ์เพื่อขอแม่คืน โดยตำรวจให้พูดหลอกล่อว่าจะไปพบเพื่อเจรจากันได้ที่ไหน จนคนร้ายหลุดปากให้ไปหาที่บ้าน ในพื้นที่ ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังไปจู่โจมจับตัวได้ในเวลาต่อมา และนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองชัยนาท เบื้องต้นนายสุรศักดิ์ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้บังคับลักพาตัว แต่ น.ส.นฤมนยินยอมไปด้วยแต่โดยดี เพราะคบหากันอยู่ ส่วนนายพงศ์รินทร์คู่หูนายสุรศักดิ์ ให้การปฏิเสธเรื่องอาวุธปืนโดยสิ้นเชิง ว่าไม่มีการใช้ปืนหรืออาวุธใดๆในการก่อเหตุทั้งสิ้น



ด้าน น.ส.นฤมนเปิดเผยว่า ตนเองคบหากับนายสุรศักด์จริง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ใช้กำลังฉุดกระชากและทำร้ายตนเช่นนี้ ตนคงทนคบหาต่อไปไม่ได้ เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายรุนแรงไปกว่านี้ จึงขอดำเนินคดีกับนายสุรศักดิ์ในเหตุการณ์นี้ ส่วนกรณีของสามีนั้นตนเองยืนยันว่าตกลงที่จะเลิกรากันก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน เพราะสงสารลูกๆ อยู่กันแต่เพียงในนามเท่านั้น

ล่าสุดตำรวจได้นำผู้ต้องหาทั้ง2คนไปตรวจหาสารเสพติด ซึ่งปรากฏว่ามีฉี่ม่วงทั้งคู่ จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะโดนหลายข้อหา ทั้งทำร้ายร่างกาย บังคับข่มขืนใจ ทำให้สูญเสียอิสรภาพ เสพสารเสพติด และหากสอบสวนพบหลักฐานว่าใช้ปืนข่มขู่ด้วย ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนเพิ่มอีกกระทงสำหรับนายพงศ์รินทร์