ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามในร่างกฎหมายเยียวยาเศรษฐกิจจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 มูลค่ามหาศาล 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้วในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม เพื่อปูทางไปสู่การให้ความช่วยเหลือด้านการเงินชาวอเมริกันโดยตรงคนละ 1,400 ดอลลาร์ หรือเกือบ 43,000 บาท
ประธานาธิบดีไบเดน ได้ลงนามในร่างกฎหมายฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเรียกว่า American Rescue Plan หรือมาตรการช่วยเหลือชาวอเมริกัน ก่อนที่จะกล่าวปราศรัยต่อประชาชนอเมริกันในช่วงเย็นวันนี้ (ศุกร์ที่ 12 มีนาคม) เนื่องในโอกาสครบรอบหนึ่งปีของการใช้มาตรการล็อคดาวน์ ซึ่งคาดว่าจะระบุถึงความคืบหน้าของโครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ และเตือนว่าต้องใช้ความระมัดระวังต่อไปในการควบคุมไวรัสโควิด
“กฎหมายประวัติศาสตร์ฉบับนี้ จะฟื้นฟูความเข้มแข็งของประเทศนี้ และให้ประชาชนในประเทศนี้, ประชาชนคนทำงาน, ชนชั้นกลาง, ประชาชนที่สร้างประเทศ และโอกาสในการต่อสู้” ไบเดน กล่าวในห้องทำงานรูปไข่ก่อนลงนามกฎหมายดังกล่าว “นั่นคือสิ่งที่เป็นแก่นแท้ของมัน”
ในช่วงเย็นวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งครองเสียงข้างมากโดยพรรคเดโมแครต ลงมติด้วยคะแนนเสียง 220 – 211 ผ่านร่างกฎหมายฟื้นฟูเศรษฐกิจและบรรเทาทุกข์ชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับแรก และสำคัญที่สุดตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม การผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ในสภาผู้แทนราษฎร มีขึ้นสี่วันหลังวุฒิสภาผ่านกฎหมายดังกล่าว เดิมทีผู้นำสหรัฐฯ จะลงนามในร่างกฎหมายนี้ในวันศุกร์ แต่ถูกเลื่อนมาเร็วขึ้นหนึ่งวันเนื่องจากสามารถผ่านสภาล่างได้เร็วกว่าที่คาดไว้
ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมาย American Rescue Plan รัฐบาลสหรัฐฯ จะมอบเงินช่วยเหลือโดยตรงแก่ชาวอเมริกันหัวละ 1,400 ดอลลาร์ สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 75,000 ดอลลาร์ต่อปี ซึ่งจะมีประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ของครัวเรือนจะได้รับเงินก้อนนี้ อีกทั้งยังขยายเวลาให้เงินช่วยเหลือคนตกงานอีกสัปดาห์ละ 300 ดอลลาร์ไปจนถึงเดือนกันยายน, ขยายส่วนลดภาษีสำหรับครอบครัวที่มีบุตรสูงถึง 3,600 ดอลลาร์ต่อบุตรหนึ่งคน และช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณ 350,000 ล้านดอลลาร์ให้กับรัฐบาลส่วนท้องถิ่นและของรัฐต่าง ๆ และเพิ่มเงินทุนสำหรับการแจกจ่ายวัคซีน
มาตรการช่วยเหลือนี้ เป็นไปตามที่นายไบเเดนรับปากไว้ระหว่างการหาเสียง เพื่อหาทางเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากวิกฤติการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสที่ดำเนินมากว่าหนึ่งปี ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตอยู่แต่กับบ้าน มีผู้ติดเชื้อรวมมากกว่า 29 ล้านคน และเสียชีวิตแล้วกว่า 530,000 คน ส่วนการฉีดวัคซีนโควิดทั่วประเทศ เพิ่มเป็นมากกว่า 95.7 ล้านคนแล้ว จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือ CDC โดยมีวัคซีนโควิดที่ใช้อยู่ในขณะนี้ 3 ชนิดที่ผ่านการอนุมัติให้ใช้ฉุกเฉินจากองค์การอาหารและยา หรือ FDA ประกอบด้วย Pfizer/BioNTech, Moderna and Johnson & Johnson
ด้านเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวกับสื่อมวลชนระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดีว่า ชาวอเมริกันจะเริ่มเห็นเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าบัญชีธนาคารอย่างเร็วสุดในช่วงสุดสัปดาห์นี้
สำหรับคำปราศรัยของประธานาธิบดีไบเดนในคืนวันพฤหัสบดีนี้จะมีขึ้นในเวลา 20.00 น. ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน โดยประธานาธิบดีไบเดนจะสรุปสถานการณ์การระบาดในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา รวมทั้งการตอบสนองของรัฐบาลสหรัฐฯ ในขั้นต่อไป
นอกจากนี้ คาดว่านายไบเดนจะเตือนคนอเมริกันว่าอย่าเพิ่งผ่อนคลายความระมัดระวัง และอย่าเพิ่งกลับไปใช้ชีวิตตามปกติในตอนนี้ แต่ให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการระบาดต่อไป รวมถึงการสวมหน้ากาก การรักษาความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค และการเว้นระยะห่างทางสังคม