"อลงกรณ์" เชื่อทุกอย่างจะดีขึ้นหลังมีรธน.ฉบับถาวร ชี้ปฏิรูปได้พรรคการเมือง นักการเมือง ต้องร่วมมือ บ่นคงไม่มีกฎหมายใดทำให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ รับอาจมีสปท. บางคนลาออกไปลงเลือกตั้งถือเป็นสิทธิ์ ไม่กระทบทำงาน
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางประเทศหลังจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ว่า ประเทศจะเริ่มเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตย เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ เมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ทุกอย่างจะดีขึ้น รวมทั้งจะได้เห็นผลพวงจากการปฏิรูปประเทศที่สปท. ร่วมทำมาประมาณ 2 ปีเศษ ส่วนที่ถามว่าเมื่อมีรัฐธรรมนูญแล้วจะเกิดการเปลี่ยนโฉมทางการเมืองเลยหรือไม่นั้น รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ แต่การปฏิรูปได้นั้น ต้องได้รับความร่วมมือจากพรรคการเมือง นักการเมือง คงไม่มีกฎหมายใดที่จะทำให้พรรคการเมืองเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ พรรคการเมือง นักการเมืองต้องตื่นรู้ ร่วมมือเพื่อสร้างสรรค์แนวทางไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน ที่ผ่านมามีคำถามว่า ยามมีประชาธิปไตยในอ้อมกอด ทำไมจึงรักษาไม่ได้ เงื่อนไขรัฐประหารล้วนมาจากวิกฤตการเมือง ปัญหาการคอรัปชั่น ดังนั้นเมื่อมีรัฐธรรมนูญที่เรียกกันว่า ฉบับปฏิรูปประเทศ ฉบับปราบโกง ได้รับการออกแบบปิดช่องว่างทางการเมือง วางรากฐานปฏิรูป เพื่อจะทำให้เราตั้งหลักตั้งลำได้ แต่เราคงไม่พอเพียงเท่านั้น แต่เราต้องการนำประเทศไปสู่เหมือนประเทศพัฒนาแล้ว จึงต้องอาศัยพรรคการเมือง นักการเมือง ในการนำพาประเทศไปสู่ความยั่งยืนตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ20ปี
สำหรับวาระการทำงานของสปท. ที่จะสิ้นสุดลงเมื่อมีการประกาศใช้กฎหมายยุทธศาสตร์ชาติ กฎหมายปฏิรูปประเทศ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวอยู่ที่สนช.พิจาณา ที่อาจจะพิจารณา 60 วัน 90 วันก็ได้ แต่อยู่ภายในกรอบ 120 วันก็ได้ ช้าหรือเร็วต้องพ้นหน้าที่ อย่างไรก็ดีสปท.จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด นำพาประเทศไปสู่โรดแมปให้ได้ และต้องขึ้นอยู่กับความปรองดองที่ป.ย.ป. กำลังดำเนินการอยู่ด้วยในการนำพาประเทศไปสู่ความสามัคคี ไม่ให้สถานการณ์กลับไปซ้ำรอยเดิมอีก แต่ทั้งนี้ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนด้วย ทั้งนี้อาจจะมีสมาชิกสปท. ลาออกไปเพื่อเตรียมลงเลือกตั้งบ้าง คงเป็นนักการเมืองที่มาจากพรรคการเมืองที่เป็นสปท. ถือเป็นสิทธิ์ ไม่มีผลกระทบต่อสปท.