กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารในเมียนมา ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงยิงเสียชีวิตอีกอย่างน้อย 38 ศพ ในหลายเมือง เมื่อวันพุธ ขณะที่การชุมนุมประท้วงยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่กองทัพเมียนมา นำโดย พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน ของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนางออง ซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 ก.พ.
ข้อมูลรวบรวมจากสื่อท้องถิ่น และการโพสต์ทางเพสบุ๊ก แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ใช้มาตรการเด็ดขาด ในเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ ด้วยการใช้ทั้งกระสุนยาง แก๊สน้ำตา ระเบิดควัน และ "กระสุนจริง" ทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
สถานีโทรทัศน์และสำนักข่าวออนไลน์อิสระ เสียงประชาธิปไตยแห่งพม่า หรือ ดีวีบี (Democratic Voice of Burma : DVB) รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตในหลายเมืองรวมอย่างน้อย 38 คน บาดเจ็บอีกหลายสิบคน ผู้เสียชีวิตรวมถึง เด็กชายอายุ 14 ปีและ 17 ปี และเด็กสาวอายุ 19 ปี
เมียนมาเพิ่งผ่านพ้นวันนองเลือด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งการสลายการชุมนุมทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คน บาดเจ็บอีกหลายสิบคน ตามรายงานของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ โอเอชซีเอชอาร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การสลายการชุมนุมของหน่วยความมั่นคงเมื่อวันพุธ ในเมืองโมนยวา ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน บาดเจ็บอีกกว่า 30 คน ที่เมืองย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่า และเมืองใหญ่สุด มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน ที่เมืองมะเกว อย่างน้อย 1 คน และที่เมืองมยินชาน ทางตอนใต้ของเมืองมัณฑะเลย์ มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายกังวลว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากภารกิจของเจ้าหน้าที่ยังไม่ยุติ
ความรุนแรงล่าสุดเกิดขึ้น เกิดขึ้นหลังการพบปะหารือ ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของหลายประเทศสมาชิกกลุ่มอาเซียน รวมถึงอินโดนีเซีย เมียนมา และไทย ที่กรุงเทพฯ และกลุ่มอาเซียนออกแถลงการณ์เรียกร้องต่อทุกฝ่ายในเมียนมา ให้ใช้ความอดกลั้น.