ปทส.ออกหมายเรียกฟันผิด"ปารีณา"รุกป่า

2021-03-02 14:20:14

ปทส.ออกหมายเรียกฟันผิด"ปารีณา"รุกป่า

Advertisement

ปทส.ออกหมายเรียก "ปารีณา" เข้าพบ พนักงานอัยการ จ.ราชบุรี ฐานรุกป่า วันที่ 4 มี.ค.นี้

"บิ๊กตู่"เผยทุกคนฉีดวัคซีนโควิด19 สบายดี

สธ.แจงไม่พบวีไอพีแซงคิวฉีดวัคซีนโควิด-19

อย. เตือนระวังคนหลอกขายเมล็ดพันธุ์กัญชง-สาร CBD

เมื่อวันที่ 2 มี.ค. พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ผบก.ปทส. เปิดเผยกับทีมข่าวนิว18 ว่า ภายหลังจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอตัว น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ส่งไปให้อัยการ พิจารณาสั่งฟ้องฐานครอบครองพื้นที่ป่าโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยขณะนี้ได้มีการออกหมายเรียก น.ส.ปารีณา ให้เดินทางเข้าพบพนักงานอัยการจังหวัดราชบุรี เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายในวันที่ 4 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ซึ่งถือเป็นการออกหมายเรียกครั้งแรก หาก น.ส.ปารีณา ยังไม่เดินทางเข้าพบอัยการ ทางตำรวจก็จะออกหมายเรียกอีกหนึ่งครั้ง และถ้าหากยังไม่เข้าพบอัยการเป็นครั้งที่ 2 ตำรวจก็จะพิจารณาออกหมายจับต่อไป




ผบก.ปทส. กล่าวอีกว่า สำหรับข้อหาสั่งฟ้อง น.ส.ปารีณา มีด้วยกัน 4 ข้อหา ประกอบไปด้วย 1.ความผิดตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ม.14 และ ม.31 “ร่วมกันยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนชาติ โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต”

2.ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 “ฐานร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”

3.ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน “ร่วมกันเข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้างหรือเผาป่า กระทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย ในบริเวณที่รัฐมนตรีประกาศหวงห้าม ในราชกิจานุเบกษา หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินกว่าห้าสิบไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต”

4.ความผิดตามพ.ร.บ.น้ำบาดาล พ.ศ.2520 “ร่วมกันประกอบกิจการน้ำบาดาล ในเขตน้ำบาดาลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดิน ในเขตน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดจำคุก 4-20 ปี ปรับ 200,000-2,000,000บาท