กองทัพเพิ่มข้อหา”ซูจี-มะหยิ่น”

2021-03-02 05:35:30

กองทัพเพิ่มข้อหา”ซูจี-มะหยิ่น”

Advertisement


2 ผู้นำรัฐบาลพลเรือนเมียนมา นางออง ซาน ซูจี และประธานาธิบดีวิน มะหยิ่น ถูกพบเห็นเป็นครั้งแรก เมื่อวันจันทร์ (1 มี.ค.) นับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. และควบคุมตัวบุคคลทั้งสอง ไว้ในสถานที่ไม่เปิดเผย โดยซูจีและมะหยิ่นปรากฎตัวต่อศาล ในเมืองหลวงกรุงเนปิดอว์ ผ่านระบบวิดีโอลิงค์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

นายมิน มิน ซอ หนึ่งในทีมงานกฎหมายของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ เอ็นแอลดี พรรครัฐบาลที่ถูกกองทัพยึดอำนาจ เผยว่า นางซูจีซึ่งปรากฏตัวต่อศาลแขวงกรุงเนปิดอว์ ผ่านระบบจอภาพทางไกล เมื่อวันจันทร์ ดูเหมือนจะมีสุขภาพที่ดี โดยศาลได้ตั้งข้อหาเธอเพิ่มอีก 2 ข้อหา และเธอได้ร้องขอพบทีมทนายความ ขณะเดียวกัน ศาลได้สั่งให้ควบคุมตัวเธอต่อไป เพื่อรอขึ้นศาลในวันที่ 15 มี.ค.



เดิมทีนางซูจีวัย 75 ปี ถูกตั้งข้อหาดำเนินคดี 2 ข้อหา ฐานนำเข้าอุปกรณ์การสื่อสารแบบวอล์คกี้ทอล์คกี้โดยผิดกฎหมาย และละเมิดกฎหมายภัยพิบัติทางธรรมชาติ ส่วน 2 ข้อหาใหม่เมื่อวันจันทร์คือ ใช้อุปกรณ์การสื่อสารโดยผิดกฎหมาย และก่อให้เกิดความหวาดกลัวหรือตื่นตระหนก หรือ ทำลายความสงบเรียบร้อยในสังคม

2 ข้อหาแรกกฎหมายกำหนดโทษจำคุก สูงสุดไม่เกิน 3 ปี ส่วน 2 ข้อหาหลังยังไม่แน่ชัด แต่รายงานระบุว่าเธออาจจะถูกห้ามลงสมัครรับเลือกตั้งในอนาคต หากศาลตัดสินว่าเธอมีความผิดตามฟ้อง



และในวันเดียวกันนี้ อดีตประธานาธิบดีวิน มะหยิ่น ปรากฏตัวต่อศาลกรุงเนปิดอว์ โดยผ่านระบบจอภาพทางไกลเช่นกัน จากสถานที่ควบคุมตัวไม่เปิดเผย เพิ่อรับทราบข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา ฐานก่อให้เกิดความหวาดกลัวหรือตื่นตระหนกต่อสาธารณะ ข้อหาเดียวกันกับซูจี จากการการตีพิมพ์และแจกจ่าย แถลงการณ์ ข่าวลือ

วิน มะหยิ่น จะถูกควบคุมตัวต่อไป จนถึงวันขึ้นศาลนัดแรก ในวันที่ 15 มี.ค. เช่นเดียวกับซูจี

อย่างไรก็ตาม การประท้วงปะทุขึ้นอีกครั้งในหลายเมืองทั่วประเทศ ซึ่งเกิดการปะทะกันทำให้กลุ่มผู้ประท้วงที่ไม่มีอาวุธ วิ่งหลบหนีโกลาหลหลังมีเสียปืนดังขึ้น ยังไม่มีความชัดเจนว่า ทางเจ้าหน้าที่ใช้กระสุนจริงหรือไม่ ส่วนในกรุงย่างกุ้ง เมืองใหญ่สุดของเมียนมา เอเอฟพีรายงานว่า ผู้ประท้วงใช้วัสดุสิ่งของต่าง ๆ ที่พอหาได้ เช่นเสาไม้ไผ่, โซฟาและแม้แต่กิ่งไม้ วางขวางถนน ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตาและระเบิดควัน เพื่อสลายกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคน

มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 21 คนตั้งแต่เริ่มการประท้วงเมื่อเดือนที่แล้ว



ในช่วงเย็นวันจันทร์ พลเอกมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์ ระบุว่า บรรดาแกนนำการประท้วงและ “ผู้ปลุกปั่น” จะถูกลงโทษ