เยรูซาเล็ม, 22 ก.พ. (ซินหัว) — เมื่อวันอาทิตย์ (21 ก.พ.) อิสราเอลกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่อีกครั้ง หลังจากบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) นานเกือบสองเดือน พร้อมใช้งาน “กรีนพาส” (Green Pass) เพื่อยกเลิกข้อจำกัดบางประการสำหรับผู้ที่รับวัคซีนแล้ว แต่ยังคงคำสั่งห้ามบางส่วนสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
แถลงการณ์ร่วมจากสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลและกระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลระบุว่าร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และตลาดริมถนน สามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชน ส่วนการใช้บริการโรงยิม โรงแรม คอนเสิร์ต โรงละคร โรงภาพยนตร์ สถานที่พักผ่อน และกิจกรรมทางวัฒนธรรมอื่นๆ ถูกจำกัดเฉพาะผู้ที่ได้รับวัคซีนโรคโควิด-19 ครบสองโดสหรือหายจากการป่วยเป็นโรคโควิด-19 แล้วเท่านั้น
อนึ่ง ประชาชนที่ฉีดวัคซีนแล้วสามารถรับสถานะ “กรีนพาส” บนแอปพลิเคชันที่จัดทำโดยกระทรวงฯ ซึ่งยูลี เอเดลสไตน์ รัฐมนตรีกระทรวงฯ กล่าวว่า “กรีนพาส” สำรองไว้สำหรับผู้คนประมาณ 3.2 ล้านคน ที่ได้รับวัคซีนทั้งสองโดสหรือหายจากการป่วยเป็นโรคโควิด-19 จากจำนวนประชากรรวมในอิสราเอลราว 9 ล้านคน
แถลงการณ์เสริมว่าโรงเรียนส่วนใหญ่กลับมาเปิดการเรียนการสอนแล้ว และคาดว่าที่เหลือจะกลับมาเปิดเรียนภายในเดือนมีนาคม
เมื่อวันเสาร์ (20 ก.พ.) เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เผยว่าอิสราเอลเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนขนานใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยฉีดวัคซีนให้กลุ่มคนที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ประมาณ 30,000 โดสต่อวัน และตั้งเป้าหมายฉีดให้ประชากรกลุ่มนี้กว่าร้อยละ 95 ภายในสองสัปดาห์
ทั้งนี้ อิสราเอลเข้าสู่การบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2020 พร้อมเริ่มโครงการฉีดวัคซีนขนานใหญ่ ก่อนจะเริ่มผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวเมื่อวันที่ 7 ก.พ.