นิวยอร์ก, 21 ก.พ. (ซินหัว) — วันอาทิตย์ (21 ก.พ.) หนังสือพิมพ์ ยูเอสเอ ทูเดย์ของสหรัฐฯ รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหรัฐฯ ใกล้สูงเกิน 500,000 รายแล้ว โดยผู้เสียชีวิตที่เป็นบุคลากรการแพทย์มีจำนวนหลายพันราย ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ที่กินเวลานานเกือบ 1 ปีในสหรัฐฯ
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 409,000 ราย และผู้เสียชีวิต 1,438 ราย ที่เป็นบุคลากรการแพทย์ ทว่าหน่วยงานยอมรับว่าข้อมูลดังกล่าวยังขาดความสมบูรณ์
ขณะเดียวกันรายงานจากไกเซอร์ เฮลธ์ นิวส์ และหนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน เมื่อปลายเดือนธันวาคม ระบุว่าตัวเลขบุคลากรการแพทย์ที่เสียชีวิตมีจำนวนใกล้เคียง 3,000 ราย
“บุคลากรการแพทย์ทำงานหนักมากท่ามกลางความตายและความทุกข์ทรมานที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง พวกเขาละทิ้งเวลา ใช้ชีวิตอยู่กับโรค และหมดเรี่ยวแรง โดยไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการระบาดจะบรรเทาลงเมื่อใด” รายงานเผย “การระบาดก่อให้เกิดผลกระทบต่อพวกเขาอย่างร้ายแรง”
รายงานระบุว่าชาวอเมริกันหลายคนเหนื่อยหน่ายกับการสวมหน้ากากอนามัย หมดหวังต่อการหวนคืนสู่วิถีชีวิตปกติ และรู้สึกด้านชาต่อยอดตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ทว่าบุคลากรการแพทย์ไม่ต้องการรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ พร้อมเสริมว่าช่วงกลางเดือนธันวาคมที่วัคซีนมาถึงนั้นได้ช่วยขจัดความกังวลบางส่วนของบุคลากรการแพทย์ ซึ่งเป็นกลุ่มแนวหน้าที่ได้รับวัคซีน
ทั้งนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ รายงานว่าสหรัฐฯ ตรวจพบผู้ป่วยเสียชีวิต 498,254 ราย เมื่อนับถึงช่วงบ่ายวันอาทิตย์ (21 ก.พ.) ซึ่งนับเป็นสถิติสูงสุดในโลก โดยมีแคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก และเท็กซัส เป็นรัฐสามอันดับแรกที่มีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุด