ฮือฮา!"สมุนไพรไทย"ช่วยรอดพ้นจากอาการสุดทรมาร

2021-02-21 15:20:48

ฮือฮา!"สมุนไพรไทย"ช่วยรอดพ้นจากอาการสุดทรมาร

Advertisement

ประธานองค์กรสื่อฯ ด้านการขยะ โล่ง "สมุนไพรไทย" ช่วยรอดพ้นจากอาการสุดแสนทรมาน

ผบช.สตม.บินด่วน"ด่านแม่สาย"สกัด"เมียนมา"ทะลักเข้าไทย

"สุชาติ" แจงยอดลงทะเบียน "ม33เรารักกัน" วันแรกกว่า 6 ล้านราย

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. จากกรณี น.ส.สุภาดา วงศ์ซิ้ม ประธานองค์กรสื่อสารด้านการขยะ พร้อมสมาชิก ลงพื้นที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการจัดการขยะและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามชุมชนต่างๆ มาตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปี กระทั่งประธานองค์กรฯ ได้รับผลกระทบทางร่างกาย คือ มีบาดแผลที่เกิดจากอาการคันตามร่างกาย เพื่อไปพบแพทย์ จึงถูกสั่งให้หยุดทำกิจกรรมภาคสนาม และให้ดูแลรักษาตัวเองรวมระยะเวลา 2 เดือน โดย น.ส.สุภาดา กล่าวว่า หลังลงพื้นที่ภาคสนามช่วยเหลือชาวบ้านทั้งเรื่องจัดการขยะ และช่วยผู้ประสบอุทกภัย จู่ๆ มีการอาการคันตามผิวหนังจนลุกลามกลายเป็นบาดแผล ใช้ยาอะไรทาก็ไม่หาย ตอนนั้นรู้สึกแย่มาก มีอาการจิตตก นอนไม่หลับ เพราะกังวลว่าจะเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง หรือเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จึงไปให้หมอวินิจฉัยอาการ ซึ่งหมอยืนยันว่า ไม่ได้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง แต่อาการคันตามผิวหนังดังกล่าวเกิดจากการสัมผัสน้ำเน่าเสียและขยะตอนลงพื้นที่ภาคสนาม จากนั้นตนจึงไปพูดคุยกับคุณแม่ที่เคยใช้ยาสมุนไพรชนิดหนึ่งแล้วได้ผล จึงนำมาลองทาตามผิวหนัง ซึ่งพบว่าอาการคันเริ่มหายไป และบาดแผลตามร่างกายเริ่มดีขึ้น




ประธานองค์กรสื่อสารด้านการขยะ บอกอีกว่า สมุนไพรที่นำมาทดลองใช้ เมื่อทาไปแล้วจะรู้สึกว่าเมื่อออกไปทำกิจกรรมจนเหงื่อออก หรือพบเจอความสกปรก จะไม่เกิดอาการคันตามร่างกาย พร้อมยืนยันว่าหลังจากนี้จะสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันขณะลงปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ เพราะงานที่ทำอยู่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงขยะ ฝุ่น หรือน้ำเสียได้ จึงต้องป้องกันจากทั้งภายใน คือ ทำร่างกายให้แข็งแรง และสวมชุดป้องกันขณะลงปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง


ส่วนกรณีเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกสอง อยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เว้นระยะห่าง สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน และต้องคำถึงถึงการรักษาความสะอาดเป็นสำคัญ เพราะสภาพแวดล้อมเป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่งที่มีผลต่อสุขภาพ หากเป็นไปได้อยากให้ลองหันมาใช้สมุนไพรโดยไม่ต้องพึ่งพายาเคมี