รัฐบาลเกาหลีเหนือ เปลี่ยนตำแหน่งของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของประเทศใหม่ ในภาษาอังกฤษ จาก แชร์แมน (chairman) หรือ “ท่านประธาน” เป็น เพรสซิเดนท์ (president) หรือ “ประธานาธิบดี” จากรายงานล่าสุดของสื่อกระบอกเสียงรัฐบาลเปียงยาง
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ (KCNA) สื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานเป็นภาษาอังกฤษ เมื่อวันพุธ (17 ก.พ.) ข่าวนายคิม จอง-อึน เดินทางไปเยือนวังพระอาทิตย์กึมซูซาน ชานกรุงเปียงยาง เมื่อวันอังคาร เนื่องในพิธีรำลึกครบรอบ 80 ปี วันคล้ายวันเกิด 80 ปี ของนายคิม อิล-ซุง ผู้นำประเทศคนที่แล้ว ซึ่งเป็นบิดาของคิม จอง-อึน โดยศพของบิดาถูกดองเก็บไว้ในตู้กระจกโปร่งใส ในสุสานใต้วังคุมซูซาน
รายงานของเคซีเอ็นเอ กล่าวถึงคิม จอง-อึน ว่า “ประธานาธิบดีกิจการแห่งรัฐของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี” ซึ่งเป็นชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของเกาหลีเหนือ
ก่อนหน้านี้ รายงานภาคภาษาอังกฤษของเคซีเอ็นเอ เรียกตำแหน่งของคิม จอง-อึน ว่า ท่านประธานคณะกรรมาธิการกิจการแห่งรัฐ องค์กรปกครองสูงสุดของรัฐบาลเปียงยาง แต่เปลี่ยนเป็น “ประธานาธิบดี” เป็นครั้งแรก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะรายงานข่าวกลุ่มผู้นำคิวบาส่งสาส์นถึงคิม จอง-อึน
อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งของคิม ในภาษาเกาหลี ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ในวันเดียวกันนี้ สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ยังได้รายงาน นางรี ซอล-จู ภริยาของนายคิม จอง-อึน ปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก ในรอบปีกว่า โดยเธอและสามี เดินทางไปชมการแสดง เนื่องในครบรอบ 80 ปี วันคล้ายวันเกิดปีที่ 80 ของนายคิม จอง-อิล ที่โรงละครมันซูแด ในกรุงเปียงยาง เมื่อคืนวันอังคาร
นางรี ซอล-จู ปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้ ในงานแสดงฉลองวันตรุษจีน เมื่อปลายเดือน ม.ค. ปีที่แล้ว ที่โรงละครซัมจียอน ในกรุงเปียงยาง และหลังจากนั้น การหายหน้าไปของเธอ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และคาดเดาต่าง ๆ นานา จากโลกภายนอก โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ ซึ่งวิเคราะห์ว่าเธออาจกำลังตั้งครรภ์ หรือเจตนาลดการทำกิจกรรมนอก บ้าน เพื่อความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งอาจจะแพร่สู่บุตรในครรภ์ แม้รัฐบาลเปียงยางจะยืนกรานว่า ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อหรือเสียชีวิต จากโรคโควิด-19 ในประเทศ แม้แต่คนเดียวก็ตาม
แต่มีการวิเคราะห์อีกว่า การปรากฏตัวของสุภาพสตรีหมายเลข 1 เกาหลีเหนือในครั้งนี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งแผนโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อให้ชาวโลกเห็นว่า เกาหลีเหนือปลอดจากโรคโควิด-19 อย่างแท้จริง โดยจะเห็นได้จากการที่ไม่มีใคร ในโรงละครมันซูแด สวมหน้ากากอนามัยแม้แต่คนเดียว.