ยานยนต์หุ้มเกราะของกองทัพเมียนมา โผล่ตามถนนสายต่าง ๆ ในหลายเมืองทั่วประเทศ ท่ามกลางสัญญาณว่า กองทัพกำลังเตรียมการกวาดล้างกลุ่มที่ต่อต้านการยึดอำนาจรัฐประหาร ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่ บรรดาผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคม ก็ได้รับคำสั่งให้ตัดสัญญาอินเตอร์เน็ตเกือบทั้งหมดจากเวลา 01.00-09.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 01.30 น.-09.30 น.ตามเวลาในไทย ในวันอาทิตย์และจันทร์
ขณะเดียวกัน ก็เริ่มจะมีสัญญาณไม่สู้ดีในรัฐคะฉิ่น ภาคเหนือของประเทศ เมื่อกองกำลังรักษาความมั่นคงยิงปืนเข้าใส่ผู้ประท้วง ในเมืองมยิจีนา เมืองหลักของคะฉิ่น หลังการประท้วงยืดเยื้อทั่วประเทศ 9 วันติดต่อกัน แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า เป็นการยิงกระสุนยาง หรือกระสุนจริง
พร้อมกันนั้น สถานทูตชาติตะวันตกในเมียนมา ต่างประสานเสียงเรียกร้องให้กองทัพอย่าใช้ความรุนแรงกับประชาชนผู้ประท้วง หลังมีรายงานว่า ทหารพร้อมยานยนต์หุ้มเกราะ ตรึงกำลังเข้มตามท้องถนนหลายสายในกรุงย่างกุ้ง เมืองใหญ่สุดของเมียนมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กองทัพส่งยานยนต์หุ้มเกราะเข้าประจำการตามท้องถนนตั้งแต่การยึดอำนาจ โดยในกรุงย่างกุ้งมีพระสงฆ์และกลุ่มวิศวกรเป็นแกนนำในการชุมนุม
ด้านนายทอม แอนดรูว์ส เจ้าหน้าที่ทูตพิเศษ ผู้เสนอรายงานการประชุมของสหประชาชาติ หรือยูเอ็นประจำเมียนมา กล่าวหากองทัพว่า “ประกาศสงคราม” กับประชาชน และกล่าวว่า บรรดานายพลในกองทัพกำลังแสดงให้เห็น “สัญญาณเลวร้าย” และต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย
ทั้งนี้แถลงการณ์ฉบับหนึ่ง ซึ่งลงนามร่วมกันโดยสหภาพยุโรป หรืออียู, สหรัฐ และสหราชอาณาจักร ระบุว่า เราขอเรียกร้องให้กองกำลังรักษาความมั่นคงเมียนมา ยับยั้งชั่งใจไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงต่อต้านการโค่นอำนาจรัฐบาลที่มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
การยึดอำนาจในเมียนมา โค่นรัฐบาลพลเรือนที่นำโดยนางออง ซาน ซู จี ซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่กองทัพ แถลงว่า มีการโกงการเลือกตั้ง ขณะนี้ นางซู จี ถูกกักบริเวณ พร้อมทั้งนักเคลื่อนไหวและบรรดาผู้นำฝ่ายค้านอีกหลายร้อยคน ถูกจับกุมตัวด้วย ขณะที่ ทั่วประเทศ ยังมีผู้ประท้วงหลายหมื่นคน ชุมนุมประท้วงต่อต้านทหารเป็นวันที่ 9 ติดต่อกัน
สถานทูตสหรัฐในกรุงย่างกุ้ง เตือนพลเมืองสหรัฐให้พักอยู่แต่ในบ้านระหว่างชั่วโมงการบังคับใช้เคอร์ฟิว และในวันเสาร์ที่ผ่านมา กองทัพเมียนมาแถลงว่า มีการออกหมายจับนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านคนสำคัญ 7 คน และเตือนประชาชนอย่าให้ที่หลบซ่อนตัวคนที่หลบหนีการจับกุม
นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ประชาชนแสดงปฏิกิริยาต่อต้านและฝ่าฝืน ด้วยการตีหม้อและกระทะ เพื่อเตือนเพื่อนบ้านให้ได้ทราบถึงการบุกจู่โจมของกองทัพในเวลาวิกาล
ในวันเสาร์ที่ผ่านมา รัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา ได้ระงับการใช้กฎหมายหลายฉบับที่ห้ามกองกำลังรักษาความมั่นคงเข้าควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย หรือทำการตรวจค้นสถานที่ส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุมัติจากศาลก่อน ซึ่งทำให้ต่อไปนี้ พวกเขาสามารถจับกุมคุมขังและบุกค้นได้เลย อีกทั้งยังสั่งจับกุมตัวกลุ่มผู้สนับสนุนการประท้วงใหญ่ต่อต้านรัฐประหารยึดอำนาจของกองทัพในเดือนนี้
คำสั่งดังกล่าว ซึ่งลงนามโดยพลเอกมิน อ่อง หล่าย ผู้นำเผด็จการ ระงับการใช้กฎหมาย 3 ฉบับ เกี่ยวกับ “การคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของพลเมือง” ซึ่งถูกนำมาใช้ระหว่างที่ประเทศค่อย ๆ หยิบยื่นเสรีภาพให้ประชาชนระหว่างการปฏิรูป โดยกฎหมายเหล่านี้ รวมทั้งกฎหมายที่กำหนดให้ต้องขอคำสั่งศาลเพื่อทำการจับกุมนักโทษเกิน 24 ชั่วโมง และจำกัดอำนาจของกองทัพในการเข้าพื้นที่ที่เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลเพื่อทำการตรวจค้น หรือจับกุม อย่างไรก็ตาม คำสั่งดังกล่าวก็ไม่ได้กำหนดเวลาชัดเจนว่าจะบังคับใช้ไปจนถึงเมื่อไหร่