ผบ.ตร.เยี่ยม ตร.บาดเจ็บ ยันเป็นฝ่ายถูกกระทำ ปัดใช้ "กระสุนยาง-แก๊สน้ำตา" สลายม็อบ
“แรมโบ้” ซัดม็อบ 3 นิ้วยั่วยุ จนท.ก่อเหตุ
"ทหารชายแดนใต้" มอบ"ดอกไม้"แทนถือปืนวันวาเลนไทน์
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เดินทางไปยังโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อเข้าเยี่ยมตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการดูแลความเรียบร้อยการชุมนุมที่บริเวณด้านหน้าศาลหลักเมือง เมื่อช่วงค่ำวานนี้ หลังมีตำรวจได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวม 23 นาย โดย แพทย์ผู้ทำการรักษา เปิดเผยว่า ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ ถูกปาด้วยของแข็งและของเหลวคล้ายน้ำมัน ผบ.ตร. จึงแสดงความห่วงใย พร้อมสั่งการให้ดูแลด้านสวัสดิการให้กับตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่
ผบ.ตร. กล่าวว่า นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ รายงานว่า ยังคงมีตรวจที่ได้รับบาดเจ็บนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีก 19 นาย อีก 4 นายอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว และจากการพูดคุยสอบถามตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ มีบางนายได้รับสารเคมีที่มีความแสบร้อน ส่วนบางนายที่โดนก้อนอิฐ และของแข็ง ขว้างทำร้าย แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่มีอุปกรณ์ป้องกันตัว แต่ก็ยังเกิดอาการบาดเจ็บ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ถ้ามันจบก็ไม่มีเรื่อง เท่าที่ติดตามสถานการณ์ กลุ่มผู้ชุมนุมขอเจ้าหน้าที่ส่งผู้แทนไปไหว้ศาลหลักเมืองแล้วจะยุติการชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็อำนวยความสะดวกให้ จากนั้นจึงประกาศยุติการชุมนุม ตนเชื่อว่าผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งก็ทราบว่าข้อเท็จจริงคืออะไร แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งก่อเหตุความรุนแรงขึ้นมา เจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้มาตรการหยุดการก่อเหตุร้าย ต้องจับกุม ขอฝากประชาชนด้วยว่ามันมีเหตุมีผลต่อเนื่อง ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะไปตีผู้ชุมนุม ตนขอยืนยันว่า เมื่อวานไม่มีเจ้าหน้าที่ใช้กระสุนยาง ไม่มีใครใช้แก๊สน้ำตา เรามีของ มีอุปกรณ์ แต่เราไม่ได้ใช้ เราใช้เท่าที่จำเป็น เราจับกุมผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่ไปเขียนว่าทำร้ายประชาชน ถ้ามันไม่มีเหตุใครจะไปจับ จะให้ยืนเฉยๆ โดนเอาอิฐตัวหนอนทุ่มกันแบบนั้นหรือ คนมีหลายฝั่ง ประชาชนมองว่าตำรวจอ่อนแอไม่ทำอะไร ปล่อยให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นมา
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขอฝากประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่จะชุมนุมทั้งหลายให้ไปคุยกันให้รู้เรื่องด้วย ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ขอให้เข้าใจ แล้วคนที่ทำผิดทุกคนต้องถูกดำเนินคดี ถ้าใครเห็นว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุขอให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ ก็ว่าไปตามกฎหมาย และไม่ใช่คดีแรกที่ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดแบบนี้ ใครที่ทำก็มีความผิดสะสมไปเรื่อยๆ ก็ไปว่ากันในชั้นศาล ส่วนแฮชแท็กตำรวจกระทืบหมอ ในทวิตเตอร์นั้น อยากบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้ก่อเหตุจะไปอ้างว่าทำหน้าที่อะไรก็เป็นเรื่องของเขา ถ้าท่านไม่ได้ก่อเหตุท่านก็ไม่ผิด ถ้าก่อเหตุท่านก็ผิด ผู้ที่ถูกกล่าวหาต้องรู้รายละเอียดข้อเท็จจริงที่เจ้าหน้าที่แจ้ง ส่วนเรื่องการพกพาอาวุธนั้นในเบื้องต้นยังไม่พบ ส่วนการจับกุมจะเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น ก็ต้องดูกันไปว่าทำไมถึงทำแบบนั้น มันมีที่มาที่ไป ถ้าระบุว่าเกินกว่าเหตุ ก็ต้องมาว่ากันว่าเกินกว่าเหตุอย่างไร ทั้งนี้ตำรวจไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม ไม่มีใครอยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เราทำข้างเดียวไม่ได้ ถ้าอยากให้เกิดความเรียบร้อย ก็ต้องช่วยกันให้เกิดความเรียบร้อย