วุฒิสภาสหรัฐเริ่มกระบวนการถอดถอน “ทรัมป์” ครั้งที่ 2

2021-02-10 06:30:01

วุฒิสภาสหรัฐเริ่มกระบวนการถอดถอน “ทรัมป์” ครั้งที่ 2

Advertisement

การพิจารณาถอดถอน หรืออิมพีชเมนต์ ครั้งที่ 2 ต่ออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ครั้งประวัติศาสตร์ ในข้อหายุยงปลุกปั่นให้กลุ่มผู้สนับสนุนของเขาประมาณ 800 คน บุกจู่โจมอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ดีซี. ในระหว่างที่ฝ่ายนิติบัญญัติกำลังรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งทรัมป์ พ่ายแพ้ต่อประธานาธิบดี โจ ไบเดน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา เริ่มต้นขึ้นแล้วในวันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ เป็นอดีตผู้นำสหรัฐคนแรกที่ถูกพิจารณาถอดถอนในวุฒิสภา

ทรัมป์ถูกยื่นญัตติถอดถอนโดยสภาผู้แทนราษฎร ที่นำโดยพรรคเดโมแครตเมื่อเดือนที่แล้ว กรณีที่เขามีบทบาทสำคัญทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนบุกอาคารรัฐสภา หลังเขากล่าวปราศรัยด้วยถ้อยคำที่ดุดันปลุกฝูงชนให้สู้ พร้อมย้ำซ้ำ ๆ ด้วยคำกล่าวอ้างที่ไม่เป็นความจริงว่า เขาถูกโกงเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

กระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณ 4 วัน โดยสมาชิกวุฒิสภา 100 คน ทั้งจากพรรคเดโมเเครตและรีพับลิกัน ต่างมีเสียง ส.ว.เท่ากันที่ 50 เสียง และมีรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส จากเดโมเครต เป็นอีกเสียงตัดสิน




สำหรับการพิจารณาให้อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ มีความผิดนั้น ต้องอาศัยเสียงสนับสนุนจากส.ว.ฝั่งเดโมแครตทั้งหมด 50 เสียง บวกกับเสียงสนับสนุนอีก 17 คนจากฝ่ายรีพับลิกัน ดังนั้นจึงเป็นที่คาดหมายว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ถูกพิจารณาว่ามีความผิดโดยวุฒิสภา

แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ที่ชัดเจนในตอนนี้ คือ อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ได้สร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นผู้นำอำนาจฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ คนแรกในรอบกว่า 200 ปีที่ถูกตั้งข้อหาเพื่อขอถอดถอนถึง 2 ครั้ง รวมทั้งยังเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนแรก ที่ถูกยื่นญัตติขอถอดถอนหลังจากที่พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว



โดยครั้งก่อนนั้น ทรัมป์ ถูกเดินเรื่องขอถอดถอนจากข้อกล่าวหาที่เขากดดันให้ยูเครนตรวจสอบบุคคล เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง

ส่วนทีมทนายความของทรัมป์ โต้แย้งว่า การพิจารณาถอดถอนทรัมป์นั้น ขัดรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันก็แย้งว่า ทรัมป์ไม่ได้ยั่วยุให้ผู้สนับสนุนเขาก่อการจลาจล และว่า คำปราศรัยของเขาเกี่ยวกับการเลือกตั้งก็ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายที่เรียกว่า First Amendment คือบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 ที่ระบุอย่างชัดเจนว่า “สภาฯ จะต้องไม่ผ่านกฎหมายใด ๆ ที่จะเป็นการริดรอนเสรีภาพในการพูดและการพิมพ์ และต้องปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่จะชุมนุมอย่างสันติ และร้องเรียนรัฐบาลเพื่อให้แก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน”

บรูช แคสเตอร์ ทนายความของทรัมป์ เตือนว่า การพิจารณาถอดถอนทรัมป์ครั้งที่ 2 ในรอบ 13 เดือน จะเป็นการเปิดทางให้เกิดการฟ้องร้องเพื่อถอดถอนในอนาคต ขณะที่ เดวิด ชอน ทนายความของทรัมป์อีกคน กล่าวหาพรรคเดโมแครตว่ากำลังใช้การถอดถอน เป็น “กีฬาเลือด” ทางการเมือง เพื่อพยายามกีดกันทรัมป์ไม่ให้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีได้อีก



ทีมทนายความของทรัมป์ เตรียมโต้แย้งว่า ประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งเท่านั้น ที่ต้องเผชิญหน้ากับการพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่ง แต่เสียงส่วนใหญ่ของผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย กล่าวว่า เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่สามารถพิจารณาถอดถอนได้หลังเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่งพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว

วุฒิสมาชิกสหรัฐลงมติเมื่อวันอังคาร ด้วยคะแนน 56-44 เสียง เดินหน้ากระบวนการถอดถอนทรัมป์ หลังจากทบทวนภาพจากคลิปวิดีโอเหตุการณ์โจมตีอาคารรัฐสภาอย่างละเอียดแล้ว ซึ่งเท่ากับเป็นการปฏิเสธคำกล่าวอ้างของทีมทนายความทรัมป์ที่ว่า กระบวนการถอดถอนขัดต่อรัฐธรรมนูญ