ตาต่อตาฟันต่อฟัน 3 ชาติอียูตะเพิดทูตรัสเซีย

2021-02-09 06:20:13

ตาต่อตาฟันต่อฟัน 3 ชาติอียูตะเพิดทูตรัสเซีย

Advertisement


เยอรมนี, โปแลนด์และสวีเดน เนรเทศเจ้าหน้าที่ทูตรัสเซียประเทศละ 1 คน หลังรัสเซียขับทูตของ 3 ชาติออกนอกประเทศ โดยทำเนียลเครมลิน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทูต 3 คนของสหภาพยุโรป หรืออียู เข้าร่วมการประท้วงตามท้องถนนเพื่อแสดงการสนับสนุนนายอเล็กซี นาวาลนี ผู้นำฝ่ายค้านที่ถูกลงโทษจำคุก การเนรเทศทูตอียูในรัสเซีย ถูกประกาศขณะที่นายโจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานนโยบายต่างประเทศอียู เดินทางเยือนกรุงมอสโก ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ทั้ง 3 ชาติที่ได้รับผลกระทบ ต่างประณามการกระทำของรัสเซียว่า “ไร้เหตุผล”

การตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ตอกย้ำให้เห็นถึงความเปราะบาในความสัมพันธ์ตะวันออก-ตะวันตก และกัดกร่อนความน่าเชื่อถือระหว่างกลุ่มประเทศศัตรูในช่วงสงครามเย็น โดยชาติตะวันตก กล่าวว่า รัสเซียว่าพยายามบ่อนทำลายเสถียรภาพและทำเนียบเครมลินก็ปฏิเสธและมองว่า เป็นการแทรกแซงของต่างชาติ



คณะบริหารของอียู ปกป้องนายบอร์เรลล์ กรณีการเยือนรัสเซีย ซึ่งเขากล่าวว่า เขาได้รับทราบเกี่ยวกับการเนรเทศเจ้าหน้าที่ทูตอียูผ่านโซเชียล มีเดีย ขณะที่หารือกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียในกรุงมอสโกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวในวันจันทร์ว่า การขับเจ้าหน้าที่ทูตจากเยอรมนี, โปแลนด์และสวีเดนนั้น เกิดขึ้นหนึ่งวันก่อนการเยือนของนายบอร์เรลล์



กระทรวงต่างประเทศเยอรมนี ระบุในแถลงการณ์ที่อ้างถึงการเนรเทศทูตรัสเซียว่า เจ้าหน้าที่ทูตของเยอรมนีที่ถูกขับออกจากกรุงมอสโกนั้น เป็นเพียงเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์การพัฒนาในรัสเซียด้วยวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับอนุสัญญาทางการทูต ขณะที่ สวีเดนก็สะท้อนท่าทีของเยอรมนี ด้วยการเรียกร้องการเนรเทศทูตครั้งนี้ “ยอมรับไม่ได้”

นายบอร์เรล เผยแพร่ข้อความผ่านบล็อกในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประเมินความสัมพันธ์ระหว่างอียู-รัสเซีย อยู่ในช่วงมืดมน เขาบอกว่า การแถลงข่าวเนรเทศเจ้าหน้าที่ทูตอียู 3 คน ระหว่างการเยือนของเขา แสดงให้เห็นว่า ทางการรัสเซียไม่ต้องการฉกฉวยเอาโอกาสนี้ เจรจาอย่างสร้างสรรค์มากขึ้นกับทางอียู

นายบอร์เรลจะแถลงต่อรัฐสภายุโรปในวันอังคารนี้ ซึ่งรัฐสภายุโรปได้เรียกร้องให้ใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อหยุดยั้งโครงการวางท่อก๊าซ “นอร์ด สตรีม 2” ระหว่างรัสเซียและเยอรมนีด้วย

อียูประณามการจำคุกนายนาวาลนี และเรียกร้องให้ปล่อยตัวเขาทันที และยังเรียกร้องให้รัสเซียทำการสอบสวนอย่างโปร่งใสในการลอบวางยาพิษนายนาวาลนี วัย 44 ปี ด้วยสารเคมีทำลายระบบประสาทโนวีช็อกในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยนายนาวาลนี กล่าวหาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สั่งโจมตีเขาโดยตรง ซึ่งทำเนียบเครมลินปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับการวางยาพิษ และไม่เห็นด้วยกับข้อสรุปของชาติตะวันตก ที่สรุปว่า สารเคมี โนวีช็อก ซึ่งเป็นอาวุธเคมีของรัสเซีย ถูกใช้ในการโจมตีนายนาวาลนี



ในเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว องค์การห้ามใช้อาวุธเคมี หรือโอพีซีดับเบิลยู (OPCW) สรุปว่า สารเคมี “โนวีชอก” ถูกใช้กับนายนาวาลนี และยังเป็นข้อสรุปของบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านพิษวิทยาในเยอรมนี, สวีเดน และฝรั่งเศสด้วย

นายนาวาลนี ซึ่งเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีปูตินอย่างถึงพริกถึงขิง เกือบเสียชีวิต แต่ได้รับการรักษาเบื้องต้นในไซบีเรีย จากนั้นก็ถูกส่งตัวไปรักษาต่อในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ก่อนที่จะเดินทางกลับรัสเซียครั้งแรกในวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา และถูกจับกุมตัวทันที ซึ่งจุดชนวนให้เกิดการประท้วงใหญ่ทั่วประเทศจากกลุ่มผู้สนับสนุนของเขา

นายนาวาลนี ถูกลงโทษจำคุกในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ หลังศาลรัสเซียพิพากษาว่าเขาละเมิดเงื่อนไขโทษจำคุกรอลงอาญา ในคดีฉ้อโกง ซึ่งเขากล่าวว่ากลั่นแกล้ง