สลด "ลูกสาว ส.ว." ป่วยซึมเศร้า ใช้ปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ยิงตัวเองเสียชีวิตคาบ้านพัก
สยอง!หมอดึง“พยาธิตัวตืด” 2 เมตรออกจากปากคุณตา 79 ปี
"สมศักดิ์"นำทีมแถลงจับยึดเฮโรอีนเตรียมส่งออกพันล้าน
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ร.ต.ท.พิพัฒน์ แสนเปี่ยม รอง สว.(สอบสวน) สน.บางมด พร้อมเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบเหตุยิงตัวตายภายในบริษัท ต.ชัยพัฒนา จำกัด เลขที่ 1 หมู่ 4 ถนนสุขสวัสดิ์ ซอย 2 แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กทม. ที่เกิดเหตุพบเป็นเป็นโรงงานผลิตอาหารแปรรูปประเภทผักกาดดอง แตงกวาดอง และขิงดอง โดยด้านหลังโรงงานแบ่งเป็นบ้านพักอาศัยของครอบครัวเจ้าของธุรกิจ โดยทั้ง 2 โซนปลูกอยู่ในรั้วรอบขอบชิดบนพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ จากการตรวจสอบในห้องน้ำบริเวณชั้นล่างของบ้านพัก พบ น.ส.บลู (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ลูกสาวเจ้าของโรงงาน นอนเสียชีวิตอยู่ข้างโถชักโครก พบบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับข้างขวาทะลุออกด้านซ้าย 1 นัด ใกล้กันพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 แบบหักลำบรรจุกระสุนทีละ 1 นัด มีปลอกกระสุนคารังเพลิง ตกอยู่ในอ่างล้างหน้าตรงปลายเท้าผู้ตาย 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบถาม นางเดือน (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) พนักงานในโรงงาน ทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นลูกสาวของเจ้าของโรงงาน โดยก่อนเกิดเหตุทราบว่า มีอาการป่วยโรคซึมเศร้ามานานกว่า 10 ปี จึงไม่ได้ทำงานหรือประกอบอาชีพใดๆ
มีรายงานว่า หลังพบศพมีคำสั่งให้ปิดประตูโรงงาน พร้อมขอความร่วมมือไม่ให้พนักงานทุกคนออกไปด้านนอกโรงงาน และไม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสำนักใด โดยอนุญาตให้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าไปด้านในได้เท่านั้น สำหรับบริษัท ต.ชัยพัฒนา ทำธุรกิจผักดองบรรจุกระป๋องส่งออกไปไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และหลายประเทศทางยุโรป โดยเจ้าของกิจการ คือ นายวิชัย ทิตตภักดี สมาชิกวุฒิสภาคนล่าสุด ที่มีตำแหน่งเป็นอดีตกงสุลกิตติมศักดิ์สถานกงสุลสาธารณรัฐคองโก และยังเป็นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญชุดที่มี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน โดยเมื่อช่วงที่ นายวิชัย ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินที่อยู่ในความครอบครองนั้น ปรากฏว่าตกเป็นข่าวดังในฐานะเจ้าสัว เพราะมีทรัพย์สินถึง 1,018 ล้านบาท ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบหาที่มาของอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวว่าผู้เสียชีวิตนำมาจากที่ใด ก่อนมอบร่างให้แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช ทำการผ่าชันสูตรเพื่อหาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ก่อนออกเอกสารสำคัญเพื่อให้ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป