"กรมป่าไม้" แจ้งจับ "ธนาธร-แม่-พี่สาว" ฐานบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน จ.ราชบุรี กว่า 2 พันไร่
"หมอ"ย้ำเตือนกินสุกๆ ดิบๆ ไม่รอดพ้น"พยาธิตัวตืด"
ผบ.ทบ. แจงเหตุกราดยิงโคราช ลงโทษ 13 นายทหาร
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. มีรายงานจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส.ว่า นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วย นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ และ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมแจ้งความเพิ่มเติมกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ กรณีถือครองที่ดินซึ่งเป็นเขตป่าสงวนฝั่งซ้ายของแม่น้ำภาชี โดย นายอดิศร กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลจากข้อมูลเดิมที่เคยดำเนินการเกี่ยวกับการถือครองที่ดินของ นางสมพร จึงลงตรวจสอบพื้นที่จริงของที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งพบว่ามีการกระทำผิดจริง จึงดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี นางสมพร กับ บก.ปทส.ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.2563 ฐานใช้เอกสาร ภ.บ.ท.5 และ น.ส.2 เนื่องจากยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติแบบผิดกฎหมายรวมเนื้อที่กว่า 440 ไร่ พร้อมส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.ดำเนินคดีตามมูลฐานความผิดซึ่งดำเนินการไปแล้วเช่นกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการรวบรวมประเมินความเสียหายของภาครัฐ เพื่อดำเนินการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายตามระเบียบและกฎหมาย
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ของชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ได้ทำการสืบสวนจนพบว่า นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ นำเอกสารสิทธิที่ดินประเภท น.ส.3 ก. ซึ่งเป็นเอกสารที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมายึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่ จ.ราชบุรี ไม่น้อยกว่า 60 แปลง รวมเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่ ซึ่งถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ คณะเจ้าหน้าที่จึงทำการขยายผลสืบสวนต่อเนื่อง ก่อนตรวจยึดพื้นที่ผิดกฎหมายทั้งหมด ดำเนินการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 147,063,223.15 บาท ตามระเบียบของภาครัฐ พร้อมดำเนินคดีเพิ่มไปตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.พิทักษ์ กล่าวว่า คดีที่กรมป่าไม้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนางสมพร แม่ของนายธนาธร เมื่อปลายปี 2563 จึงมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา เพราะต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายก่อนที่จะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดไปตามกฏหมาย ส่วนคดีล่าสุดที่ กรมป่าไม้ มีหลักฐานชัดเจนว่าบุคคลทั้ง 3 คนกระทำความผิด รวมทั้งเจ้าหน้าที่กรมที่ดินอีก 5 คน ทาง บก.ปทส.จะรับเรื่องเอาไว้สืบสวนสอบสวนก่อนดำเนินคดี โดยพร้อมให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกกล่าวหา โดยสามารถนำหลักฐานเข้ามาชี้แจงที่ บก.ปทส.ได้