ไปลุยเรื่องการเกษตรเเบบเต็มตัวเลยทีเดียวสำหรับ"ตั๊ก บงกช คงมาลัย" ที่ช่วงนี้เข้าคลาสเรียนลงลึกเกี่ยวกับการเกษตรอย่างจริงจัง ล่าสุดเจอเจ้าตัวในงาน"ฟิตติ้งละครเรื่องเมียหลวง" เลยสอบถามถึงเรื่องนี้พร้อมถามถึงการรับงานละครเรื่องล่าสุดได้ความว่า
ถามถึงการรับละครเรื่องนี้?
จริงๆตั๊กจะร่วมงานกับพี่ฉอดตั้งนานแล้วนะคะ แต่ว่าติดภารกิจส่วนตัวนิดหน่อย พอมาเรื่องนี้ก็ได้อ่านบทจริงๆอยากร่วมงานกับพี่ฉอดมานานแล้วค่ะ
ทำไมถึงตัดสินใจรับเรื่องนี้?
คือตั๊กชอบความสมัยใหม่ของบทและก็ชอบความเป็นมนุษย์ของตัวละครเรื่องนี้ มนุษย์ของตัวละครค่อนข้างจะมีความจริงที่มีความลึกลับ มีความหวัง คือทุกตัวละครมีชีวิตจริงด้วยค่ะ ตั๊กชอบ
เราได้เอาความเป็นเมียหลวงในชีวิตจริงมาผสมผสานด้วยมั้ย?
ไม่สิ (ยิ้ม) เพราะว่าจริงๆการครอบครูก็เป็นแบบหนึ่งของนักแสดงนะคะ ที่ไม่ให้เอาการแสดงไปเล่นในชีวิตจริง ไม่งั้นเราก็จะไม่เจริญเนอะ
ต้องเคาสนิมเยอะมั้ยเรื่องการแสดง?
ก็นิดนึงค่ะเพราะตั๊กไม่ได้เล่นนานแล้ว ก็ตื่นเต้น(ยิ้ม)
ทำไมเราถึงตัดสินใจรับละครอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้เราบอกว่าจะรับแค่เรื่องลายกินรี?
พอดีมีเวลาและได้คุยกับทางครอบครัวค่ะ และทางคุณบุญชัยตกลงด้วยค่ะ ทางพี่ฉอดได้คุยกับทางคุณบุญชัยแล้ว คุณบุญชัยก็ได้ฟังเรื่องที่พี่ฉอดเล่าเรื่องให้คุณบุญชัยได้ฟัง คุณบุญชัยก็สนับสนุนค่ะและบอกว่าอยากให้เล่น(ยิ้ม)
ได้คุยกับลูกหรือยังว่าแม่จะเล่นละคร?
เดี๋ยวอาจจะต้องมีคุยค่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุย
เรื่องนี้เราเคาะสนิมยังไง เพราะบทก็ค่อนข้างซับซ้อน?
ก็มีอ่านบท แต่จริงๆต้องพึ่งผู้กำกับและทีมงาน(หัวเราะ) ตั๊กเชื่อในทีมนะคะ คือเรื่องนี้ทีมเวิร์คนะคะ และผู้กำกับตั๊กได้เห็นผลงานของพี่เค้า แต่ได้เห็นผลงานของพี่ฉอดมาหลายเรื่องค่ะ ก็รู้สึกได้ว่าเราต้องได้รับการเทรนด์ในแต่ละฉากได้ดีค่ะ
หลายคนคาดหวังว่าแม่กลับมาแล้ว?
แม่เลยหรอ(หัวเราะ) ก็จริงๆคือพอเรากลับมาเล่นละครก็มีแรงบันดาลใจให้เรากลับมาดูแลตัวเองอีกรอบด้วย
ก่อนหน้านี้ที่เราบอกจะไปทำการเกษตร ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว?
ก็ยังทำการเกษตรอยู่ค่ะ ละครก็จะเป็นวันจันทร์ อังคาร พุธ วันพฤหัสก็จะไปเรียนเกษตร
หลังจากนี้แฟนๆจะได้เห็นหน้าเราในส่วนของงานละครมากขึ้นมั้ย?
ก็มีเรื่องนี้ค่ะ แต่ยังไม่ได้รับเรื่องอื่นค่ะ
ถ้ามีค่ายละครอื่นติดต่อมา?
ก็ต้องคุยกับทางครอบครัว
มารับงานละครแบบนี้จะกระทบเวลาของครอบครัวมั้ย?
ก็คุยกับทางพี่ฉอดค่ะ ก็ไม่กระทบกัน เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว
ตอนนี้การเกษตรเป็นยังไงบ้าง?
จริงๆก็ได้เรียนการเกษตร พอดีตั๊กคิดว่าการเรียนวิชาชีพเลยอยากเรียนด้านการสร้างอาหาร การปลูกพืช ตั๊กคิดว่ายุคนี้การทำอะไรที่เป็นสายอาชีพเนี่ยน่าจะดีกว่า เช่น อาหาร การปลูกผัก เป็นอาชีพเล็กๆของตัวเอง
เรามีเป้าหมายมั้ยว่าทำไปเพื่อสิ่งนี้?
ก็อยากจะทำอะไรที่เกี่ยวกับแบรนด์ส่วนตัว แต่ก็อยากลงลึกไปในเรื่องของการสร้างอาหารมากกว่า แต่จะสร้างยังไงให้เรารู้ลึกรู้จริง ดินเป็นยังไง ปลูกอะไรได้บ้าง ถามว่ายากมั้ยก็ยากนะคะในการเจอแดด(ยิ้ม) แต่รู้สึกว่าการเรียนเกษตรไม่ยากนะคะ ก็มีการคำนวณว่าดินตรงนี้ควรปลูกอะไร ใช้อะไรค่ะ การหมักอาหารส่วนหนึ่งที่เราใช้แล้ว การให้อาหารอะไรมะเขือเทศถึงจะไม่เหม็นคาว เราควรให้อะไรเปลือกกล้วยหอมถึงเป็นเปลือกไข่ หรือการปลูกดอกไม้เพื่อล่อแมลง ซึ่งตอนนี้แมลงก็เยอะ คือมีแมลงตัวนึงที่เป็นศรัตรูพืชคือเค้าบินวันละ 150 เมตรต่อวัน ซึ่งมากินข้าวบ้านเราแล้วก็บินต่อไป การใช้สารเคมีก็ไม่ได้ทำให้แมลงตายแต่เป็นการสร้างภูมิให้แมลง ก็ทำให้เรารู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร หลบเลี่ยงอย่างไรค่ะ
มีวิธีจัดการแมลงตัวนี้อย่างไร?
เราต้องให้แมลงจัดการแมลงกันเอง อย่างแมงมุมก็จะกินแมลง หรือการเลี้ยงไส้เดือนเยอะๆก็จะทำให้ดินเป็นรู เค้าก็จะเหมือนซุยดินให้เรา ดินก็จะมีอ๊อกซิเจนมากขึ้น ก็จะมีธาตุอาหารและกำจัดแมลงในดินค่ะ
น้อข้าวหอมสนใจเรื่องนี้ด้วยมั้ย?
คืออยากเรียนให้จบก่อน ค่อยส่งลูกไปเรียนค่ะ(ยิ้ม) เราอาจจะต้องเรียนไป 3-4 ปี เลยค่ะ เราต้องเรียนปลูกผักใบก่อนนะคะ และก็ผักลูก ผักยอด การปักชำ การตอนกิ่ง การตัดแต่งพุ่มไม้ ตั๊กไปเรียนที่ศูนย์ชัยพัฒนาค่ะ
ตอนได้ลงมือทำมันยากกว่าทฤษฎีมั้ย?
ตั๊กว่าลงมือทำเองง่ายกว่านั่งเรียนในห้อง(หัวเราะ) แต่พอเราไปเรียนเราต้องนั่งสรุปส่งอาจารย์ค่ะ ตั๊กก็มีเป้าหมายในสิ่งที่เรียนมาก็อยากจะถ่ายทอดให้กับคนรุ่นใหม่ๆในอนาคตที่เค้าอยากจะรู้เรื่องการเกษตร ซึ่งตอนนี้ดินบ้านเราอาจจะต้องได้รับการดูแลมากๆเลยค่ะ
น้องข้าวหอมเปิดเทอมวันแรกไปแล้วเป็นยังไงบ้าง?
ลูกก็อยากเจอเพื่อน อย่างโรงเรียนของลูกตั๊กเค้าก็มีมาตรการเรื่องระยะห่างอยู่แล้ว และมีการตรวจจากทางกระทรวงอยู่แล้วว่าควรเปิดมั้ยค่ะ ก็ไม่ต้องห่วงอะไร เราก็บอกเค้าว่าให้ล้างมือบ่อยๆ ให้ใส่หน้ากากและเว้นระยะห่างจากเพื่อนๆ ให้ทานน้ำในกระติกน้ำตัวเอง มีช้อนของตัวเองและไม่นั่งกับพื้นค่ะ เด็กสมัยนี้เค้าค่อนข้างเข้าใจนะคะ
ตอนลูกเรียนทางออนไลน์เราปวดหัวมั้ย?
ไม่เลย เพราะเด็กชอบคอมพิวเตอร์มากกว่า คือลูกเรียนอยู่บ้านเราต้องเก่งคอมด้วยไง(หัวเราะ) เราก็ต้องหานี่อะไร นั่นอะไร อันนี้เด้งมา ต้องคอนเนคให้เห็นกันอย่างนี้
ก่อนหน้านี้เราก็ไม่อยากให้ลูกไปโรงเรียนเพราะหวั่นเรื่องโรคระบาด?
ก็ต้องทำตามระเบียบค่ะ เพราะว่าจะห่วงมากไป ไม่ให้เค้าไปเลยก็ไม่ได้ค่ะ ตั๊กไว้ใจโรงเรียนค่ะ ก็ห่วงนะคงเหมือนแม่ตั๊กห่วงตั๊กแต่ก่อนอ่ะ คือห่วงแต่ก็ต้องทำใจเพราะเค้าก็ต้องเรียนหนังสืออ่ะ