เมื่อวันอาทิตย์ (31 ม.ค.) อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยว่าแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) บริษัทเวชภัณฑ์ข้ามชาติอังกฤษ-สวีเดน ให้สัญญาจะเพิ่มการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ (โควิด-19) แก่สหภาพยุโรป (EU)
ฟอน แดร์ ไลเอิน โพสต์ทวิตเตอร์ว่าแอสตราเซเนกาจะจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่ม 9 ล้านโดสในไตรมาสแรกของปี 2021 ทำให้จำนวนวัคซีนรายไตรมาสรวมอยู่ที่ 40 ล้านโดส โดยแอสตราเซเนกา “จะเริ่มจัดส่งเร็วขึ้นจากกำหนดเดิมหนึ่งสัปดาห์” และจะยังเพิ่มกำลังการผลิตในยุโรปด้วย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยคลายความตึงเครียดจากการตอบโต้อันเผ็ดร้อนระหว่างอียูกับแอสตราเซเนกา กรณีการจัดส่งวัคซีนไม่เป็นไปตามข้อตกลง หลังแอสตราเซเนกาประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะลดจำนวนวัคซีนที่จัดส่งแก่อียู
รายงานจากกลุ่มสื่อมวลชนเผยว่าแอสตราเซนเนกาตกลงจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในไตรมาสแรก จำนวน 80 ล้านโดส แต่ถอนคำสัญญาดังกล่าวหลังจากมีรายงานห่วงโซ่อุปทานในอียูหยุดชะงัก
แอสตราเซเนกาเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายแรกที่อียูลงนามข้อตกลงจัดซื้อล่วงหน้า ซึ่งเป็นความพยายามป้องกันโรคโควิด-19 ไม่ให้แพร่ระบาดเพิ่มขึ้น
ข้อตกลงที่ลงนามเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อนระบุว่าคณะกรรมาธิการยุโรปในนามสมาชิกอียูตกลงจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 300 ล้านโดส โดยมีแนวโน้มสั่งซื้อเพิ่มอีก 100 ล้านโดส
วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาได้รับอนุมัติให้จัดจำหน่ายแบบมีเงื่อนไขในอียูเมื่อวันศุกร์ (29 ม.ค.) หลังจากองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) ประเมินผลเชิงบวกในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพ โดยวัคซีนตัวนี้เป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตัวที่ 3 ที่ได้รับอนุมัติจากสหภาพยุโรป
ขณะทั่วโลกกำลังต่อสู้เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ผ่านการอนุมัติได้เริ่มต้นขึ้นแล้วทั่วอียู
อนึ่ง ข้อมูลที่เผยแพร่โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันอังคาร (26 ม.ค.) ระบุว่าขณะนี้มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 236 ตัว อยู่ระหว่างการพัฒนาทั่วโลก โดย 63 ตัวอยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกในเยอรมนี จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ