วอชิงตัน, 1 ก.พ. (ซินหัว) — เมื่อไม่นานนี้ แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อระดับชั้นนำของสหรัฐฯ กล่าวว่าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยหว่านล้อมเหล่าบุคลากรการแพทย์ว่าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหรัฐฯ ไม่ได้รุนแรงหรือมีความสำคัญมากนัก
ขณะให้สัมภาษณ์กับเดอะนิวยอร์กไทม์ส์ เฟาซีย้อนนึกถึงตอนเขาเป็นสมาชิกกองกำลังเฉพาะกิจด้านโรคโควิด-19 ประจำทำเนียบขาวภายใต้การบริหารของทรัมป์ เผยว่าอดีตประธานาธิบดีพยายามกลบเกลื่อนสถานการณ์ตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มต้นระบาดได้เพียงไม่นาน
“ผมเริ่มตระหนักว่ามีบางอย่างผิดแปลกเมื่อพยายามพูดอธิบายและสะท้อนให้เห็นความหนักเบาของสถานการณ์ การตอบสนองจากอดีตประธานาธิบดีมักมีทีท่าสบายๆ ไม่ตึงเครียด หว่านล้อมให้คุณไม่คิดมากกับปัญหาจนเกินไป” เฟาซีกล่าว
เฟาซีเผยเกี่ยวกับการรับมือโรคระบาดใหญ่ของฝ่ายบริหารภายใต้การนำของทรัมป์ว่าอดีตประธานาธิบดีมักประเมินการช่วยเหลือทางการแพทย์โดย “ไม่อิงหลักฐานแต่อาศัยการปะติดปะต่อเรื่องเล็กๆ น้อยๆ” ซึ่งทำให้เฟาซีวิตกกังวลอย่างมาก
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์คนนี้ยังยอมรับว่าเขาเคยโต้เถียงกับทรัมป์เกี่ยวกับการประเมินและการจัดการวิกฤตโรคระบาดนี้ โดยเฟาซีเคยประเมินสถานการณ์แง่ลบให้ทรัมป์ฟังครั้งสองครั้ง แต่ทรัมป์มักบอกให้คิดแง่บวก ไม่ต้องมองโลกแง่ร้ายขนาดนั้น มองบวกเข้าไว้
ทั้งนี้ ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ระบุว่าสหรัฐฯ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากกว่า 26.09 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิตมากกว่า 440,000 ราย เมื่อนับถึงเที่ยงวันอาทิตย์ (31 ม.ค.) โดยสหรัฐฯ มีผู้ป่วยสะสมและผู้ป่วยเสียชีวิตมากที่สุดในโลก