เร่งช่วยเหลือผู้สูงอายุ 13 ราย ถูกเรียกเงินคืน (คลิป)

ผู้ว่าฯ โคราชเร่งช่วยเหลือผู้สูงอายุ 13 รายถูกเรียกเงินคืน สั่งตรวจสอบทั้ง 32 อำเภอ สภาทนายความยื่นมือช่วย 4 รายถูกฟ้องศาล

วันที่ 28 ม.ค.64 ความคืบหน้ากรณีผู้สูงอายุ 13 ราย ในพื้นที่ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถูกเทศบาลตำบลจอหอเรียกเก็บเงินค่าเบี้ยยังชีพคืนย้อนหลัง 10-14 ปี เป็นเงินคนละ 80,000-100,000 บาท หลังพบว่าผู้สูงอายุได้รับเงินบำนาญพิเศษ ซึ่งถือว่าขาดคุณสมบัติ หลายคนเดือดร้อนไม่มีเงินคืน จนถูกฟ้องศาลดำเนินคดี

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ท้องถิ่นจังหวัดเร่งดูแลช่วยเหลือเรื่องระเบียบข้อกฎหมาย พร้อมทั้งตรวจสอบจำนวนผู้สูงอายุทั้ง 32 อำเภอ ว่ามีจำนวนกี่รายที่ถูกเรียกคืนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุย้อนหลัง แต่ละรายเป็นเงินมากน้อยเพียงใด เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยา เข้าใจว่าผู้สูงอายุไม่มีเจตนาที่จะโกงหรือทุจริตเงินของรัฐแต่อย่างใด สาเหตุน่าจะเกิดจากระบบการเก็บข้อมูลคลาดเคลื่อน ทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้ได้เร่งดูข้อกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้สูงอายุทุกรายอย่างเต็มที่

ขณะเดียวกัน สภาทนายความ จ.นครราชสีมา ยื่นมือช่วยเหลือครอบครัวผู้สูงอายุ 4 ราย ที่ถูกเทศบาลตำบลจอหอฟ้องศาลแขวงนครราชสีมา เพื่อเรียกคืนเงิน ซึ่งก่อนหน้านี้ตกลงกันไม่ได้ ตามเงื่อนไขให้ผ่อนจ่าย 3 เดือนแรก เป็นเงินเดือนละ 18,000 บาท หลังจากนั้นผ่อนจ่ายเดือนละ 1,000 บาทจนกว่าจะครบ แต่ทั้ง 4 ราย ไม่มีเงินจ่ายคืน

นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความ จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า เคยมีคดีลักษณะนี้มาแล้ว โดยศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินว่า เงินที่ได้มาเป็นลาภมิควรได้ ซึ่งผู้ที่ได้มาต้องใช้คืนเงินในส่วนที่เหลือ แต่หากไม่เหลือ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้คืน ซึ่งสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา พร้อมให้การช่วยเหลือต่อสู้คดี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่าง

ทั้งนี้ ศาลแขวงจังหวัดนครราชสีมาได้นัดฝ่ายจำเลย คือ ผู้ถูกเรียกคืนเงิน 4 ราย และฝ่ายโจทก์ คือ เทศบาลตำบลจอหอ ไปพบที่ศาลเพื่อไกล่เกลี่ย ให้การแก้ข้อหาแห่งคดีและสืบพยาน ในวันที่ 18 ก.พ.64