"บช.ก."ปฏิบัติการบุกจับ"อาวุธสงคราม"ยึดของกลางเพียบ

2021-01-22 20:50:35

"บช.ก."ปฏิบัติการบุกจับ"อาวุธสงคราม"ยึดของกลางเพียบ

Advertisement

"บช.ก." เปิดปฏิบัติการบุกจับ "พ่อค้า" พร้อมของกลาง "อาวุธสงคราม-เครื่องกระสุน" เพียบ

ทมภ.4 สั่งคุมเข้มสกัดกั้น"แรงงานต่างด้าว"หลบหนีเข้า จชต.

"สภากาชาดไทย"ยันไม่เคยนำเลือดบริจาคไปขายให้ รพ.

"ดีเจ มะตูม"รู้สึกแย่!ถูกมองเป็น"ซูเปอร์สเปรดเดอร์"

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบซื้อขายอาวุธปืนสงคราม โดยยึดของกลางปืนยาว 7 กระบอก ปืนพกสั้น 5 กระบอก กระสุนปืน 303 นัด หลังตำรวจกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ทำการจับกุม นายมานะ อายุ 33 ปี ได้พร้อมอาวุธปืนสงคราม ก่อนขยายผลไปตรวจค้นบ้านพักภายในซอยรามอินทรา 8 เขตบางเขนนอกจากนี้ยังนำหมายศาลไปค้นบ้านเป้าหมายใน ต.บางโปรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนจับกุม นายอธิพงษ์ พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น และเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง ต่อมาได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซอยกาญจนาภิเษก 36 เขตประเวศ กทม. สามารถจับกุม นายภานุพงศ์ พร้อมของกลางปืนไรเฟิล 2 กระบอก ท่อเก็บเสียงปืนไรเฟิล 1 อัน อาวุธปืนพกสั้น พร้อมกระสุนปืนอีก 241 นัด และจากการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากตำรวจมีข้อมูลว่า นายมานะ ซึงมีอาชีพเป็นช่างไฟฟ้า มีพฤติการณ์ซื้อขายอาวุธปืนให้กับผู้รักชอบอาวุธปืนด้วยกัน และเคยสั่งซื้อชิ้นส่วนปืนสงครามมาประกอบ จึงทำการล่อซื้อให้นำอาวุธปืนมาส่งที่ย่านรามอินทรา ก่อนเข้าจับกุมแล้วทำการขยายผลจนสามารถจับผู้ต้องหาได้อีก 2 ราย


ผบช.ก. กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพ ว่า เป็นกลุ่มที่รักชอบสะสมอาวุธปืน เคยซื้อปืนมาขายหลายครั้ง โดยจะขายอาวุธปืนเอ็ม 16 ในราคาประมาณ 30,000 บาท ส่วนอาวุธปืนพกสั้นจะขายอยู่ที่ราคาประมาณ 20,000 บาท และจากการตรวจค้นพบผู้ต้องหาบางรายมีใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืน แต่เป็นการครอบครองอาวุธปืนผิดมือ และจากการตรวจสอบอาวุธปืนทั้ง 12 กระบอก พบว่ามีเพียงกระบอกเดียวที่มีใบอนุญาตและทะเบียนถูกต้อง ขณะที่บางกระบอกพบร่องรอยการลบเลขทะเบียนออกไปอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะนำของกลางและผู้ต้องหานำส่งแต่พนักงานสอบสวนในแต่ละท้องที่เพื่อแยกดำเนินคดี พร้อมประสานให้กองพิสูจน์หลักฐานนำของกลางไปตรวจสอบว่าเคยถูกนำไปใช้ก่อคดีในพื้นที่ใดมาก่อนหรือไม่ รวมถึงจะตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาอย่างละเอียดว่าเคยมีคดีความติดตัวมาก่อนหน้านี้หรือไม่