ลูกสาวคนโตเผยได้ยินเสียงคนร้องไห้ก่อน "น้องบ็อบบี้" หายไป พ่อยันยังไม่ฝังศพ

นายทรงวุฒิ กล่าวว่า ยังคงเชื่อว่าการที่น้องบ๊อบบี้จะสามารถไปถึงจุดที่พบศพของเขาได้จะต้องมีผู้ใหญ่นำพาไปอย่างแน่นอน แม้ว่าตามปกติเด็กๆ ในหมู่บ้านรวมทั้งลูกชายคนกลางของตนมักจะพากันออกไปวิ่งเล่นตามพื้นที่ทั่วไปในหมู่บ้าน และระยะทางที่พบศพก็ถือว่าอยู่ในวิสัยที่เขาสามารถไปถึงได้แต่ไม่ใช่จุดที่เด็กๆ มักจะเข้าไปเล่นกัน จึงจะเก็บศพของลูกชายเอาไว้ไม่นำมาฝังตามประเพณีจนกว่าคดีจะคลี่คลายไปกว่านี้หรือจับกุมคนร้ายได้เสียก่อน

ด้านนายไก่ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นคนดูแลน้องบ๊อบบี้เป็นคนสุดท้าย กล่าวว่า ตนรับดูแลน้องบ๊อบบี้และหลานๆ 3 คนในบ้านนาน 3 ปีแล้ว เพราะพ่อแม่ของเขามักจะออกไปรับจ้างกรีดยางนอกพื้นที่ครั้งละ 2-3 วัน ที่ผ่านมาก็ไม่พบผิดปกติใดๆ ปกติจะมีเพื่อนขี่จักรยานมารับน้องบ๊อบบี้ออกไปเล่นกันในหมู่บ้านเป็นประจำกระทั่งวันเกิดเหตุในช่วงบ่ายตนได้จุดไฟในห้องครัวเพื่อต้มน้ำ ก่อนจะออกไปเปลี่ยนแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือที่ตลาดใน อ.เวียงเชียงรุ้ง และกำชับไม่ให้หลานๆ ออกไปเล่นนอกบ้านอีก เมื่อเสร็จธุระในเวลาเย็นจึงกลับบ้านก็พบว่าเหลือหลานเพียง 2 คนดังกล่าว จึงได้สอบถามหลานที่เป็นพี่สาวคนโตอายุ 9 ขวบ ก็ทราบว่าช่วงเกิดเหตุได้ไปทำปัดกวาดห้องครัวแต่ได้ยินเสียงคนร้องไห้ที่ห้องโถงของบ้าน เมื่อออกมาดูก็ไม่พบบ๊อบบี้แล้ว ส่วนน้องชายวัย 4 ขวบยังสื่อสารไม่ได้มากนักจึงไม่ทราบว่าใครพาไปกันแน่