หน่วยความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมขั้นสูงสุด ทั้ง 50 มลรัฐและเขตปกครองดิสทริคท์ ออฟ โคลัมเบีย หรือ ดีซี ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อรับมือเหตุจลาจลและความรุนแรง ที่อาจจะเกิดขึ้น จากกลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันและประธานาธิบดีโดนีลด์ ทรัมป์ เมื่อนายโจ ไบเดน เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ในวันพุธที่ 20 ม.ค.
ทหารกองกำลังป้องกันชาติ จากทั่วประเทศ ถูกส่งไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอย ฝูงชนฝ่ายสนับสนุนทรัมป์บุกอาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการปะทะ และฝูงชนถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต 4 ศพ ตำรวจประจำสภาคองเกรสเสียชีวิตอีก 1 คน เมื่อวันที่ 6 ม.ค.
สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ออกแถลงการณ์เตือน กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์มีอายุธ อาจจะก่อหวอดเดินขบวน ใน 50 รัฐทั่วอเมริกา
เมื่อวันเสาร์ (16 ม.ค.) ถนนเนชั่นแนล มอลล์ หน้าอาคารรัฐสภาใน ดี.ซี. ถูกปิด ห้ามประชาชนทั่วไปเข้าหรือสัญจรผ่าน นอกจากนั้นยังมีการกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ประจำตามจุดต่างๆ และวางสิ่งกีดขวาง ทั่วเขตเมืองหลวง
ตำรวจแถลงยืนยันเมื่อวันเสาร์ ว่า ชายชาวอเมริกันจากรัฐเวอร์จิเนียรายหนึ่ง ถูกจับกุมเมื่อวันศุกร์ พร้อมกับอาวุธปืนพก 2 กระบอก และกระสุน 509 นัด ซึ่งไม่มีใบอนุญาตพกพา ขณะพยายามจะฝ่าด่านตรวจของตำรวจประจำรัฐสภา
นายดอน เบเยอร์ ส.ส.จากรัฐเวอร์จิเนีย ทวีตข้อความว่า มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่จะเกิดเหตุรุนแรง พร้อมกับเตือนประชาชน ให้พยายามหลีกเลี่ยงอาคารรัฐสภา ซึ่งจะถูกใช้เป็นสถานที่สาบานตนของไบเดน ในวันที่ 20 ม.ค.
ก่อนหน้านี้ ทีมงานถ่ายโอนอำนาจของไบเดนและพรรคเดโมแครต ออกแถลงเรียกร้องประชาชน ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าเขต ดี.ซี. เพื่อร่วมชมพิธีสาบานตน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการระบาดของไวรัสโควิด-19 ประชาชนควรชมงานพิธี จากการถ่ายทอดสดทางทีวีอยู่ที่บ้าน.