เครื่องบินโดยสารสายการบินราคาประหยัด“ศรีวิชัย แอร์” ของอินโดนีเซีย บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือ 62 คน สูญหายไปจากจอเรดาร์ของหอควบคุมการบิน เพียงแค่ 4 นาที หลังบินขึ้นจากสนามบินกรุงจาการ์ตา เมื่อบ่ายวันเสาร์ ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองปอนเตียนัค บนเกาะบอร์เนียว รายงานระบุว่าเครื่องบินตกลงในทะเล ไม่ไกลจากชายฝั่งจาการ์ตา
เจ้าหน้าที่การบินพลเรือนอินโดนีเซีย เผยว่า เครื่องบินโดยสาร โบอิ้ง 737-500 สายการบินศรีวิชัย แอร์ เที่ยวบิน เอสเจ182 บรรทุกผู้โดยสาร 50 คน รวมถึงเด็ก 10 คน นักบินและลูกเรือ 12 คน บินออกจากท่าอากาศยานนานาชาติโซการ์โน-ฮัตตา ชานกรุงจาการ์ตา เมื่อเวลา 14.36 น. ช้ากว่ากำหนดประมาณครึ่งชั่วโมง เนื่องจากฝนตกหนัก โดยจะมุ่งหน้าไปสู่สนามบินซูปาเดียว เมืองปอนเตียนัค ในจังหวัดกาลีมันตันตะวันตก บนเกาะบอร์เนียว ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 90 นาที แต่เครื่องบินหายไปจากจอเรดาร์ และขาดการติดต่อกับหอควบคุมการบิน เมื่อเวลา 14.40 น.
นายบูดิ การ์ยา ซูมาดี รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมอินโดนีเซีย เผยว่า เครื่องบินโบอิ้ง 737-500 ลำนี้ มีอายุการใช้งาน 27 ปี และสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ประมาณ 130 คน หลังได้รับแจ้งเหตุ สำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติอินโดนีเซีย รีบจัดส่งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและค้นหา ออกปฏิบัติหน้าที่
นายบูดีเผยอีกว่า ได้รับรายงานผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนระบุว่า เห็นเครื่องบินลำนี้พุ่งดิ่งตกลงในทะเล ใกล้เกาะลากี ซึ่งบอยู่ห่างจากสนามบินโซการ์โน-ฮัตตา ประมาณ 20 กิโลเมตร ส่วนนายซูรัคมาน หัวหน้าหน่วยกู้ภัย เผยต่อผู้สื่อข่าว ทีวี คอมปาส ว่า ได้รับแจ้งจากชาวประมง พบเศษสิ่งของที่ดูเหมือนจะเป็นชิ้นส่วนจากเครื่องบิน ลอยอยู่ในทะเล นอกชายฝั่งทางเหนือของกรุงจาการ์ตา เจ้าหน้าที่ได้นำเรือออกไปตรวจสอบแล้ว
ทางด้านเว็บไซต์ติดตามเส้นทางบิน ของเครื่องบินโดยสารทั่วโลก “ไฟลท์เรดาร์24” รายงาน ว่า เที่ยวบินเอสเจ182 หล่นวูบกลางอากาศ สูญเสียระดับความสูงกว่า 10,000 ฟุต ภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที โดยเครื่องดิ่งวูบลงสู่ระดับ 250 ฟุต แล้วหายไปจากจอเรดาร์ของหอควบคุมการบิน.