ยุโรปเร่งฉีดวัคซีน โควิดกลายพันธุ์ระบาดหนัก

2020-12-27 11:50:17

ยุโรปเร่งฉีดวัคซีน โควิดกลายพันธุ์ระบาดหนัก

Advertisement

ทั่วยุโรป ซึ่งรวมทั้งฝรั่งเศส, เยอรมนีและสเปน พร้อมใจกันฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้วโดยไม่รอช้าในวันอาทิตย์ หลังได้รับวัคซีนโควิดของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ในวันเสาร์

ยุโรปเริ่มโครงการฉีดวัคซีนทั่วภูมิภาคครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วในวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการยุติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อเศรษฐกิจและมีผู้เสียชีวิตทั่วโลกมากกว่า 1.7 ล้านราย และติดเชื้อมากกว่า 80 ล้านราย

ขณะที่ ทั่วยุโรปเริ่มแจกจ่ายและฉีดวัคซีนให้ประชาชน การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ ที่ระบาดอยู่ในสหราชอาณาจักร ก็ยังแพร่กระจายไปในหลายประเทศทั่วยุโรป โดยการระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคนที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร พบเพิ่มเติมในสเปน, สวีเดนและสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากที่ เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน โควิดกลายพันธุ์ในสหราชอาณาจักทำให้หลายสิบประเทศทั่วโลกปิดพรมแดน ระงับการเดินทางจากสหราชอาณาจักร




หลายประเทศในสหภาพยุโรป หรืออียู เริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิดของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ที่ผ่านการอนุมัติแล้ว ให้ประชาชนของตน โดยบุคลากรทางการแพทย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเยอรมนี แถลงว่า ได้เริ่มฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชราในเมืองฮัลเบอร์สตัดท์ แต่ยังมีประชาชนจำนวนเล็กน้อยที่บ้านพักคนชราในเยอรมนี ที่ได้รับวัคซีนในวันเสาร์ หนึ่งวันก่อนเจ้าหน้าที่เริ่มรณรงค์ฉีดวัคซีนในประเทศ

การฉีดวัคซีนโควิดหมู่ทั่วอียู ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีประชากรเกือบ 450 ล้านคน จะเป็นมาตรการที่สำคัญอย่างยิ่งในการยุติการระบาดของไวรัส ที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 1.7 ล้านรายทั่วโลก, ทำลายเศรษฐกิจเสียหายย่อยยับ และทำลายธุรกิจและงานด้วย



ส่วนฮังการี ก็ฉีดวัคซีนที่พัฒนาร่วมกันของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ด่านหน้าในการต่อสู้กับไวรัสโควิด ที่โรงพยาบาลหลายแห่งในกรุงบูดาเปสต์ เมืองหลวงฮังการี หลังจากได้รับวัคซีนชุดแรกเพียงพอกับการฉีดให้กลุ่มเสี่ยง 4,875 คน ส่วนผู้ได้รับวัคซีนเป็นคนแรก คืออาเดรียน เคอร์เตสซ์ นายแพทย์ที่โรงพยาบาลเดล-เปสต์ เซ็นทรัล

ฮังการีมีผู้ติดเชื้อโควิดทั่วประเทศ 315,362 ราย และมีผู้เสียชีวิต 8,951 ราย ผู้ป่วยมากกว่า 6,000 รายยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งก็สร้างความยากลำบากต่อระบบสาธารณสุขของฮังการีอย่างมาก

ขณะที่เจ้าหน้าที่ในสโลวาเกีย ก็บอกว่า พวกเขาเริ่มรับวัคซีนแล้วเช่นกัน โดยวลาดิเมียร์ เคิร์ซเมอรี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาด และสมาชิกของคณะกรรมการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิดของรัฐบาลฮังการี เป็นคนแรกที่ได้รับวัคซีน จากนั้นก็เป็นเพื่อนร่วมงานของเขา



อีกหลายประเทศ ซึ่งรวมทั้งฝรั่งเศส, เยอรมนี, ออสเตรีย, โปรตุเกส, อิตาลี, โปรตุเกสและสเปน ก็เป็นกลุ่มประเทศที่เริ่มฉีดวัคซีนหมู่ในวันอาทิตย์นี้ โดยเริ่มฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ก่อน โดยนางอัวร์ซูลา แกร์ทรูท ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เปิดเผยผ่านคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ทางทวิตเตอร์ในการร่วมฉลองการแจกจ่ายวัคซีน ซึ่งเธอเรียกเหตุการณ์นี้ว่า “ช่วงเวลาแห่งความสามัคคีที่น่าประทับใจ”

การแจกจ่ายวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ซึ่งแจกจ่ายและฉีดครั้งแรกในอังกฤษข่วงต้นเดือนนี้ ถือเป็นความท้าทายที่หนักหน่วง วัคซีนใช้เทคโนโลยีทางพันธุกรรม เอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ซึ่งต้องเก็บไว้ภายในอุณหภูมิเย็นจัดประมาณ -80 องศาลเซลเซียส ฝรั่งเศส ซึ่งได้รับวัคซีนชุดแรกของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็สเทคในวันเสาร์ จะเริ่มฉีดในวันอาทิตย์ ในพื้นที่กรุงปารีส และในภูมิภาค บูร์กอญ-ฟร็องช์-กงเต (Bourgogne-Franche-Comté)

รัฐบาลฝรั่งเศส หวังว่า จะฉีดวัคซีนให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชราได้ประมาณ 1 ล้านคนระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ และจากนั้นก็จะฉีดประชาชนในวงกว้างเพิ่มอีก 14-15 ล้านคนระหว่างเดือนมีนาคม-มิถุนายน ทั้งนี้ ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศอยู่ที่ 2,550,864 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก ส่วนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 62,573 ราย สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก

ด้วยความกังวลที่เพิ่มมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศส แถลงในวันศุกร์ว่า ชายคนหนึ่งที่เดินทางกลับฝรั่งเศสจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วอยู่ในอังกฤษขณะนี้ และเชื่อว่าระบาดได้เร็วกว่าโควิดสายพันธุ์เดิม ส่วนสวีเดน ยืนยันในวันเสาร์เช่นกันว่า ตรวจพบรายแรกที่ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์ ซึ่งก็เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร



บรรดานักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ไวรัสโควิดกลายพันธุ์ อาจแพร่กระจายอยู่ก่อนแล้ว หรือมีความเป็นไปได้ว่า ไวรัสกลายพันธุ์มีต้นตออยู่ใน หรืออาจอยู่นอกสหราชอาณาจักรก็ได้ แต่พบการระบาดในสหราชอาณาจักรเป็นชาติแรก เพราะระบบการตรวจสอบของสหราชอาณาจักรมีความเข้มแข็งนั่นเอง ทั้งนี้ ไวรัสโควิดกลายพันธุ์ แพร่กระจายได้ง่ายกว่าโควิดสายพันธุ์เดม แต่ก็อาจไม่อันตรายไปกว่าสายพันธุ์เดิม