กลับสู่วงการภาพยนตร์อีกครั้งสำหรับนางเอกสาว"ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร" หลังห่างหายจากงานภาพยนตร์ไปนานถึง 6 ปีล่าสุดเจอเจ้าตัวในงานเปิดตัวภาพยนตร์ "MY BOSS IS A SERIAL KILLER" บอสฉัน ขยันเฉือด เลยสอบถามถึงผลงานเรื่องนี้ที่มาเข้าในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด19 พร้อมถามถึงเรื่องที่มีคนเข้ามาคอมเมนต์ในอินสตาแกรมส่วนตัวด้วยการบูลลี่เรื่องหน้าเปลี่ยนจากการทำศัลยกรรม โดยสาวไอซ์ได้เผยถึงเรื่องต่างๆว่า
นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ถ่ายภาพยนตร์?
นานเหมือนกันค่ะกว่าจะได้กลับมาเล่นหนังอีกครั้ง ก็ประมาณ 6 ปีกว่าๆอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็ตื่นเต้นค่ะกลับมาถ่ายภาพยนตร์อีกครั้งนึง
คาดหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้ยังไงบ้าง?
จริงๆ ไม่ได้คาดหวังอะไรเลยค่ะ ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตอนนี้ และก็ด้วยตัวเราเองที่รู้สึกว่าเราก็ห่างเหินจากการเล่นหนังไปนาน ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากค่ะ
นอยด์ไหมที่หนังมาเข้าในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด19?
นอยด์ไหมหรอคะ ตอนที่เริ่มกระบวนการถ่ายทำยังไม่มีเรื่องโควิดเข้ามาเกี่ยวข้อง สถานการณ์ยังปกติดีอยู่ค่ะก็เลยไม่มีการนอยด์ แต่เพิ่งมานอยด์เอาตอนที่ถ่ายไปแล้ว เปิดกล้องหนังไปแล้วถึงจะเริ่มมีความนอยด์เกิดขึ้นค่ะ ส่วนเรื่องรายได้อันนี้ไม่เป็นอะไรค่ะเพราะไม่ได้เข้ากระเป๋าตัวเอง(ยิ้ม) ก็เท่าไหร่ก็ได้ค่ะยินดี ด้วยสถานการณ์แบบนี้ด้วยก็ไม่ได้คาดหวังอะไร ถามว่าหวังไหมเรื่องตัวเลขรายได้คือตั้งแต่เรื่อง เอทีเอ็ม มาเรื่อง ไอฟายฯ ก็ไม่ได้คาดหวังค่ะว่าตัวเลขจะถึง 100 ล้านหรือเท่าไหร่ เพราะเราไม่สามารถคาดเดาได้เลย เรื่องนี้ก็เหมือนกันค่ะ ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็ยังคงอยากให้คนดูมาดูค่ะ เพราะว่าสนุกค่ะ และเป็นหนังแนวใหม่ ซึ่งหนังไทยยังน้อยมากที่จะทำแนวนี้ก็คือคอมเมดี้เทรลเลอร์ค่ะ
เสียดายไหมที่ภาพยนตร์มาเข้าช่วงนี้?
ไอซ์เชื่อว่าในทุกสาขาอาชีพ ทุกอุตสาหกรรมโดนผลกระทบเรื่องนี้หมดแหละค่ะ ไอซ์คิดว่าอุตสาหกรรมหนังก็เหมือนกัน ก็คงโดนผลกระทบช่วงนี้เหมือนกันค่ะ(ยิ้ม)
ถามถึงเรื่องที่เวลาเราลงรูปแล้วยังโดนคอมเมนต์เรื่องหน้าเปลี่ยน เรารู้สึกนอยด์ไหม?
นอยด์ไหมหรอคะ ไม่นอยด์แล้วค่ะ เลิกนอยด์แล้ว (หัวเราะ)
รู้สึกว่าชินกับคอมเมนต์หรือยังไง?
มันก็ไม่ได้ชินหรอกค่ะ แต่เขาเรียกว่าเลือกที่จะตั้งรับมากกว่าค่ะ
เราตั้งรับกับคำวิจารย์ยังไงบ้าง?
ก็เลือกว่าอันไหนมันเป็นทองคำอันไหนเป็นก้อนหินค่ะ เลือกว่าเราจะรับอะไรค่ะ ถ้ามันเป็นการติเพื่อก่อเราก็รับไว้ค่ะรับฟังเพื่อที่จะเอาไปปรับปรุงใช้เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้ามันเป็นก้อนหินเราไม่จำเป็นต้องเก็บขึ้นมาให้รู้สึกอะไรค่ะ
ส่วนมากคือเราไม่คิดจะตอบโต้ใช่ไหม?
ใช่ค่ะ ไอซ์เลือกที่จะอยู่เฉยๆมากกว่าค่ะ ไอซ์คิดว่าการตอบกันไปตอบกันไปมามันไม่น่าจะจบด้วยดีค่ะ
เราอยากบอกคนที่มาคอมเมนต์ไหมว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่เป็นสิ่งที่เราอยากทำ?
ไอซ์เชื่อว่าทุกคนรู้อยู่แล้วค่ะว่าเรื่องการทำศัลยกรรมมันเป็นเรื่องปกติ แล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรผิดที่ว่าเราจะทำหรือไม่ทำค่ะ
คำวิจารย์ทำให้ความมั่นใจเราน้อยลงไหม?
ความมั่นใจไม่ได้น้อยลงค่ะ เพราะว่าเรารู้ว่าเราทำอะไรหรือไม่ทำอะไรค่ะ
เราได้อ่านคอมเมนต์บ้างไหม?
ก็อ่านบ้าง บางรูปก็ไม่ได้อ่านค่ะ แล้วแต่(หัวเราะ)
บางคนก็เลือกที่จะปิดคอมเมนต์?
ไม่เคยปิดไอจีคอมเมนต์ค่ะ ไม่เคยเลย
เรามีเก็บหลักฐานไว้ฟ้องบ้างไหม?
ไม่เคยแคปไว้เลยค่ะ
คิดอยากจะฟ้องให้เป็นตัวอย่างไหม?
คือไอซ์ไม่ตัดสินคนจากการที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกับเราค่ะ เขาอาจจะมองหรือเสพข่าวมาในอีกแง่มุมนึง ส่วนเราก็รู้ว่าเราเป็นยังไง เพราะฉะนั้นไอซ์ก็ไม่ตัดสินว่าเขาจะเจอเรื่องอะไรมาบ้างในชีวิต แล้วเขาถึงคอมเมนต์เราแบบนั้น หรือเขาไปเสพข่าวเรื่องไหนมา เขาไปรับรู้เรื่องไหนมาแล้วเขาเข้าใจไปอย่างนั้น เแล้วขาตีความไปอย่างนั้น ทำให้เขาคอมเมนต์อย่างนั้น ไอซ์ไม่อยากตัดสินใครแบบนั้นเพราะไอซ์ไม่มีสิทธิจะไปตัดสินใครอยู่แล้ว แม้แต่กระทั่งตัวเองหรือคนอื่นค่ะ
ขำคนที่นำคลิปไปลงติ๊กต่อกไหม?
(ยิ้ม) ขำ ไอซ์ขำแล้วค่ะ แรกๆก็เอ๊ะ... ก็ต้องขอบคุณนะคะ ที่มีคนนำเสียงไอซ์ไปทำในติ๊กต่อกแล้ว แล้วไอซ์ก็คัฟเวอร์ตัวเองด้วย ไม่ค่อยจะตรงเท่าไหร่ แต่ก็ตลกดีค่ะ เป็นเรื่องตลกค่ะ
เดี๋ยวนี้คนแต่งรูปกันเยอะ เราแต่งบ้างไหม?
เข้าค่ะ ฟีลเตอร์อย่างเดียวไม่ได้นะคะ ต้องเข้าแอปด้วย ก็มีบ้างค่ะ ก็มีทุกคนแหละค่ะ
เราจะทำอะไรเพิ่มเพื่อความมั่นใจอีกไหม?
ไม่ต้องเพิ่มความมั่นใจแล้วล่ะค่ะ ก็เป็นเราอย่างนี้เราก็ยังมั่นใจอยู่ค่ะ (หัวเราะ)
แล้วแต่ว่าคอลเลคชั่นไหนจะมาหรือเปล่า?
ก็ไม่แน่นะในอนาคต แต่ถ้าจะมีการทำอะไรเดี๋ยวจะมาอัปเดตทุกคนให้รู้ค่ะว่าวันนี้จะไปทำอันนี้ อัปเดตแล้วนะ แต่คงไม่แนะนำอะไรยังไงไม่ได้เป็นกูรูขนาดนั้นค่ะ ไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกค่ะ ถามว่ามีใครมาปรึกษาเรื่องศัลยกรรมบ้างไหม ไม่มีเลยค่ะ เพราะเราอาจจะไม่ได้สวยขนาดนั้นก็ได้ มีคนที่สวยกว่าเขาทำแล้วสวยกว่า เราก็มั่นใจในแบบของเราค่ะ