คพ.เข้มบังคับใช้กฎหมายตรวจรถควันดำลด PM2.5

2020-12-16 11:20:06

คพ.เข้มบังคับใช้กฎหมายตรวจรถควันดำลด PM2.5

Advertisement

คพ.ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร กทม.  เข้มบังคับใช้กฎหมายตรวจรถควันดำลด PM2.5

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อากาศปัจจุบันเกิดจากความกดอากาศสูงที่อ่อนกำลังลง ลมจากอ่าวไทยที่มีกำลังแรงกว่าพัดพาเอาความชื้นจากทะเลเข้ามาปกคลุมในพื้นที่ กลายเป็นหมอกหนาอย่างที่ทุกคนเห็น ประกอบกับสภาพอากาศปิด และกิจกรรมในพื้นที่ที่ทำให้ฝุ่นละออง PM2.5 สะสมในบรรยากาศ ทั้งนี้ ค่า AQI ของกรุงเทพฯและปริมณฑลอยู่ระหว่าง 37 – 118 มคก./ลบ.ม. ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง PM2.5 มาจากรถยนต์ควันดำ ซึ่งจากการตรวจตรวจสอบตรวจจับรถยนต์ควันดำใน กทม. โดย คพ.ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร และ กทม. ในช่วงที่มีฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน พบว่า รถกระบะทั้งรถรับจ้างและรถส่วนบุคคล มีควันดำเกินค่ามาตรฐานร้อยละ 20- 25 และรถขนส่ง รถบรรทุก มีควันดำเกินค่ามาตรฐานร้อยละ 15- 20 จากการตรวจพบดังกล่าว พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ออกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราวตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และห้ามใช้รถตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า จากปัญหาดังกล่าว คพ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะร่วมการตรวจสอบตรวจจับรถยนต์ควันดำ วันละ 20 จุดและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นอย่างไม่ละเว้น และเพื่อให้การตรวจสอบตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำเป็นไปตามหลักวิชาการ คพ.ได้จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการตรวจสอบตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำ เป็นการทบทวนและฟื้นฟูทักษะ ตลอดจนความชำนาญในวิธีการ และขั้นตอนการตรวจวัดรถยนต์ควันดำ ให้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงานของกองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก  กทม. และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 – 16 ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับการฝึกการใช้เครื่องมือตรวจวัดควันดำระบบวัดความทึบแสงที่ใช้ปฏิบัติงานในปัจจุบัน ทั้งนี้ เพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5 ที่เกิดจากรถยนต์ ขอให้เจ้าของรถหมั่นดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้มีสภาพดีไม่ก่อให้เกิดควันดำ และหากพบเห็นรถยนต์ควันดำ สามารถแจ้งมาได้ที่ สายด่วน 1650 จะประสานหน่วยงานติดตามบังคับใช้กฎหมายต่อไป