นักวิทยาศาสตร์แสดงความวิตก ภูเขาน้ำแข็งขนาดยักษ์ “เอ68เอ” ขนาดพื้นที่ 4,200 ตารางงกิโลเมตร ที่กำลังลอยไร้ทิศทางอยู่ในมหาสมุทรขั้วโลกใต้ ล่าสุดกำลังเคลื่อนตัวเข้าหาและอาจจะชนปะทะ เกาะจอร์เจียใต้ของอังกฤษ ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนล่าง ซึ่งจะทำให้เกิดความหายนะต่อชีวิตสัตว์ท้องถิ่น รวมถึงห่วงโซ่อาหารของแมวน้ำและเพนกวินกว่า 2 ล้านตัว
ภูเขาน้ำแข็ง เอ68เอ (A68a) ล่องลอยอย่างไร้จุดหมาย หลังแตกแยกตัวออกจากหิ้งน้ำแข็ง ในคาบสมุทรแอนตาร์กติก เมื่อเดือน ก.ค. 2560 ด้วยขนาดพื้นที่ 5,800 ตารางกิโลเมตร
คาบสมุทรแอนตาร์ติกล่าสุดเป็นหนึ่งในพื้นที่อุณหภูมิสูงขึ้น รวดเร็วที่สุดในโลก สถิติสูงสุดวัดได้ 20.75 องศาเซลเซีส เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ต้นปีนี้ ซึ่งทำให้บรรดานักวิทยาศาสตร์ส่งเสียงเตือน น้ำแข็งละลายและแตกแยกตัว ในคาบสมุทรขั้วโลกเหนือและใต้ จะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้น
นายเจอเรนท์ ทาร์ลิ่ง นักสมุทรศาสตร์ชีวภาพ ของศูนย์สำรวจแอนตาร์กติกอังกฤษ หรือ บีเอเอส (British Antarctic Survey) ที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของภูเขาน้ำแข็ง เอ68เอ มาตลอด เผยเมื่อวันพุธ ว่า ภูเขาน้ำแข็ง เอ68เอ มีทิศทางเคลื่อนตัวเข้าหา และอาจจะชนปะทะเกาะจอร์เจียใต้ ดินแดนโพ้นทะเลของอังกฤษ ในมหาสมุทรนอกชายฝั่งทางปลายแหลมใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ แต่การชนจะเกิดขึ้นในอีกกี่วัน หรือกี่สัปดาห์ ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ เนื่องจากมันเคลื่อนตัวในอัตราเร่ง และช้าลงเป็นระยะ ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของกระแสน้ำ
นายทาร์ลิ่ง กล่าวว่า ล่าสุด เอ68เอ อยู่ห่างจากเกาะจอร์เจียใต้ไม่ถึง 50 กิโลเมตร การชนปะทะ ซึ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้น อาจทำลายล้างสิ่งมีชีวิตใต้ก้นทะเล เช่น ปะการัง ฟองน้ำ และแพลงตอน และจะปิดกั้นเส้นทางหาอาหารตามปกติ ของแมวน้ำ และเพนกวินกว่า 2 ล้านตัว.