ระทึก! เชียงรายพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 9 รายในที่กักกัน ผู้ว่าฯ เตรียมพร้อมบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ทั้งจังหวัด
วันที่ 6 ธ.ค.63 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย นพ.ทศเทพ บุญทอง นพ.สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และ นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ใน จ.เชียงราย โดยพบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวน 9 ราย เป็นหญิงอายุ 20-44 ปี ที่เดินทางเข้ามาตามช่องทางปกติที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาและได้เข้าสู่กระบวนการกักกันโรคทันทีที่กลับเข้ามาในประเทศโดยไม่ได้เดินทางออกไปในแหล่งชุมชนแต่อย่างใด รวมขณะนี้จังหวัดเชียงรายมีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 20 ราย โดยเป็นผู้ป่วยที่พบเชื้อในระหว่างกักตัวใน State Local Quarantine จำนวน 14 ราย และผู้ป่วยที่หลบหนีเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ จำนวน 5 ราย
นายประจญ กล่าวว่า ผู้พบเชื้อทั้งหมดล้วนมาจากโรงแรม 1G1 ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ซึ่ง 9 รายนี้ไม่เหนือความคาดหมายเพราะทั้งหมดทำงานและพักอาศัยด้วยกันมานานตั้งแต่ข้ามฝั่งไปและผู้พบเชื้อทั้งหมด 20 รายก็มาจากโรงแรมเดียวกันนี้ถึง 19 รายยกเว้นรายที่ 7 ที่เป็นชายใน อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งคลุกคลีกับผู้ป่วยที่มาจากฝั่งเมียนมา ปัจจุบันมีการวางกำลังป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองอย่างแน่นหนาตลอดแนวชายแดน และทางจังหวัดยังคงรอรับผู้ที่จะเดินทางกลับมา ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคนเดินทางกลับมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก รวมทั้งหมด 171 ราย โดยทั้งหมดอยู่ในความควบคุมของ จ.เชียงราย ส่วนที่พบมีเชื้อก็ได้เข้ารับการรักษาที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์
"ปัจจุบัน จ.เชียงราย ยังคงมีประกาศให้ผู้ที่รู้ตัวว่าหลบหนีเข้ามาก่อนหน้านี้ให้รีบไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยเร็ว ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เพราะส่วนใหญ่ผู้พบเชื้ออยู่ใน State Local Quarantine และผู้ที่ลักลอบเข้ามาก็มีกลุ่มสัมผัสในวงจำกัดจึงเชื่อว่าหากพ้นระยะเวลานี้ไปอีก 14-25 วัน เชียงรายก็จะปลอดภัยและเป็นของขวัญปีใหม่ 2564 ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะไปเยือนได้ต่อไป" ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าว
นพ.ทศเทพ กล่าวว่าวันนี้ ทั้ง 9 รายที่พบเชื้อดังกล่าวเดินทางเข้ามาพร้อมกันจำนวน 16 คนที่เหลืออีก 7 คนไม่พบเชื้อ จึงถือว่าประสบความสำเร็จเพราะหากปล่อยให้หลบหนีเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติจะต้องพบกับความยุ่งยากในการติดตามตัวผู้ใกล้ชิด และเมื่อเข้าสู่ศูนย์กักดูอาการก็ถือว่าควบคุมได้แล้ว ขณะที่กรณีพบผู้ที่ติดเชื้อในเขต อ.เมือง จ.เชียงราย 1 รายนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหากลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้จำนวน 22 ราย เพราะได้ตระเวนไปเที่ยวงานในสิงห์ปาร์คและสถานบันเทิงต่างๆ อีกหลายแห่ง ทำให้มีกลุ่มผู้เสี่ยงต่ำกว่า 200 ราย แต่ผลการตรวจหาเชื้อพบว่ากลุ่มเสี่ยงมีผลเป็นลบทั้งหมด
ด้าน นพ.ไชยเวช กล่าวว่าปัจจุบัน รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์มีการจัดห้องรองรับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ถึง 30 เตียง และปรับอาคาร 5 ชั้นเพื่อทำการดูแลรักษา จึงมีความมั่นใจว่าสามารถควบคุมได้และผู้ป่วยรายแรกก็จะครบกำหนดการรักษาโดยหายเป็นปกติในวันที่ 8 ธ.ค.นี้แล้ว