"ซูเปอร์โพล" ชี้ ปชช.หวั่นวิตก "โควิด-19" ระบาดหนักซ้ำสอง ชี้จิตสำนึกรับผืดชอบช่วยแก้วิกฤต
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ทางแก้วิกฤตโควิดระบาด กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,154 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-4 ธ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อถามถึงความวิตกกังวลของประชาชนต่อโควิดระบาดรอบใหม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 96.2 วิตกกังวล ขณะที่ร้อยละ 3.8 ไม่วิตกกังวล นอกจากนี้ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.3 กลัวต่อโควิดระบาดรอบใหม่ ขณะที่ร้อยละ 4.7 ไม่กลัว เมื่อถามถึงแนวทางป้องกันแก้ไขวิกฤตโควิดระบาดรอบใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.5 ระบุว่า ทุกคนต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม ช่วยกันป้องกัน แก้ไข ไม่ซ้ำเติมวิกฤตโควิด ไม่ซ้ำเติมความทุกข์ของราษฎร ขณะที่ส่วนใหญ่ร้อยละ 95.1 ระบุว่า ไม่ไปม็อบ ไม่ไปที่ที่เพิ่มความเสี่ยงแพร่ระบาดโควิดให้ราษฎรและประเทศชาติ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.4 ระบุว่า ต้องช่วยกันเข้มงวด เคร่งครัด การตั้งด่าน จุดตรวจคัดกรองโควิด นอกจากนี้ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.3 ระบุว่า อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ใช้มาตรการทำงานที่บ้าน Work from Home รีเทิร์น และส่วนใหญ่ร้อยละ 90.7 ระบุว่า ใช้เทคโนโลยี แอพพลิเคชั่น ให้ข้อมูลพื้นที่เสี่ยง หลีกเลี่ยงแพร่ระบาดโควิดรอบใหม่
ผอ.ซูเปอร์โพล ระบุอีกว่า ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.6 พอใจค่อนข้างมากถึงมากที่สุดต่อการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการแก้ปัญหาวิกฤตโควิดที่ผ่านมา ขณะที่ร้อยละ 11.4 พอใจค่อนข้างน้อยถึงไม่พอใจเลย เมื่อถามถึงความพอใจต่อ แนวทางช่วยแก้วิกฤตโควิดที่ผ่านมาพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.8 พอใจต่อการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข บุคลากรการแพทย์ อสม. และอุปกรณ์การแพทย์พระราชทาน ร้อยละ 73.2 พอใจกองทัพ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง การตั้งด่านตรวจ สกัดโควิด ร้อยละ 70.4 พอใจความเคร่งครัด สกัดโควิดของ สถานประกอบการ ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิงและอื่นๆ ร้อยละ 65.8 พอใจต่อความเคร่งครัดสกัดโควิดของรถตู้ รถทัวร์ และขนส่งสาธารณ และร้อยละ 63.9 พอใจต่อ สังคม ชุมชนโดยรวม ช่วยกันดูแล ป้องกัน การแพร่ระบาดโควิด ตามลำดับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กล่าวว่า ผลโพลครั้งนี้ชี้ว่า ประชาชนพอใจต่อทุกภาคส่วนทุกระดับในโครงสร้างของสังคมไทยตั้งแต่พระมหากรุณาธิคุณที่คนไทยทั้งประเทศได้รับเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์พระราชทาน การทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กระทรวงสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์ อสม. และทุกภาคส่วน ซึ่งคืออัตลักษ์ที่ดีของความเป็นคนไทยที่แตกต่างจากคนในประเทศต่างๆ ทั่วโลก จึงควรช่วยกันรักษาไว้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดความกลัวเกิดขึ้นในหมู่ประชาชนต่อปรากฏการณ์โควิด ซูเปอร์สเปรดเดอร์ ที่อาจเกิดขึ้นได้จากกิจกรรมของประชาชนในการรวมตัวกันของคนหมู่มาก เช่น การไปม็อบ และอื่นๆ ที่อาจนำเชื้อโควิดไปแพร่ะกระจายสู่คนในครอบครัว ที่บ้าน ที่ทำงาน และในสังคมชุมชนส่วนรวมได้ ทางแก้วิกฤตโควิดระบาด คือ ทุกคนต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม ช่วยกันป้องกันแก้ไข ไม่ซ้ำเติมวิกฤตโควิด ไม่ซ้ำเติมความทุกข์ของราษฎร ไม่ไปม็อบ ไม่ไปที่ที่เพิ่มความเสี่ยงแพร่ระบาดโควิดให้ราษฎรและประเทศชาติ ต้องช่วยกันเข้มงวด เคร่งครัด การตั้งด่าน จุดตรวจคัดกรองโควิด อยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ ใช้มาตรการ ทำงานที่บ้าน Work from Home กลับมาอีกครั้ง และใช้เทคโนโลยี แอพพลิเคชั่น ให้ข้อมูลพื้นที่เสี่ยงแบบเรียลไทม์ ประชาชนจะรู้ล่วงหน้าและหลีกเลี่ยงพื้นที่แพร่ระบาดโควิดรอบใหม่ได้