เชียงรายแถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 4 ราย โดย 1 ใน 4 เป็นชายวัย 28 ปีเป็นการติดเชื้อในประเทศเชื่อมโยงกับสาวพะเยาที่ติดเชื้อก่อนหน้านี้
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ห้องประชุมจอมกิตติ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รอง ผวจ.เชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.เชียงราย เพื่อสรุปผลและประเมินสถานการณ์การดำเนิการป้องกันและติดตามผลการแรพ่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ภายหลังก่อนหน้านี้ได้มีหญิงสาวซึ่งข้ามไปทำงานยังสถานบันเทิงในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงข้ามชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย และลักลอบข้ามกลับมาตามช่องทางธรรมชาติและกระจายเดินทางไปตามจังหวัดต่างจนมีการตรวจพบว่ามีการติดเชื้อถึง 10 คน โดยมีการตรวจพบในพื้นที่จำนวน 3 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการกักพื้นที่และควบคุมพื้นที่ของกลุ่มบุคคลเสี่ยงมากและเสี่ยงน้อยตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อของกระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนมีการเปิดรับคนไทยที่ตกค้างใน จ.ท่าขี้เหล็ก กลับประเทศตามช่องทางปกติเพื่อลดความเสี่ยงในการนำเชื้อเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย
ภายหลังการประชุมนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รอง ผวจ.เชียงราย นพ.ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เขียงราย และ นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ได้ร่วมแถลงความคืบหน้าการติดตามและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยนายวรวิทย์ แถลงว่าจากการติดตามและเฝ้าระวังสอบสวนโรคผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเมียนมาและกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดกับผู้ชิดเชื้อมีการนำตัวไว้ในพื้นที่ ศูนย์กักดูอาการหรือ Local Qurantine จำนวน 84 รายวันนี้พบมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 4 ราย รวมการติดเชื้อในรอบใหม่นี้เป็น 7 ราย หากนับรวมผู้ติดเชื้อสะสม จ.เชียงรายมีจำนวนทั้งหมด 16 ราย
ด้าน นพ.ทศเทพ กล่าวว่า ผู้ป่วยที่พบใหม่ 4 คนนั้น 3 คนแรกเป็นเพศหญิงทั้งหมด อายุระหว่าง 20-25 ปี ซึ่งได้เดินติดต่อขอเดินทางกลับมาในประเทศตามช่องทางที่คณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนท้องถิ่นหรือ ทีบีซี. ให้รับกลับประเทศเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยหลังข้ามประเทศก็พักอยู่ศูนย์กักดูอาการหรือ Local Qurantine ตลอด จึงทำให้ไม่มีไทม์ไลน์ของการเดินและไม่มีอะไรที่น่าห่วงว่าจะมีการแพร่เชื้อ ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มที่ทำงานในโรงแรม 1G1 ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่ลักลอบข้ามมาและตรวจพบว่ามีการติดเชื้อ
นพ.ทศเทพ กล่าวว่า แต่คนที่น่าห่วงคือผู้ติดเชื้อรายล่าสุดเป็นเพศชายอายุ 28 ปี ซึ่งมีไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อคนนี้ เดือน พ.ย.ทำงานร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.เชียงราย
-วันที่ 28 พ.ย. ช่วงบ่าย เพื่อนซึ่งเป็นผู้หญิงอายุ 28 ปี ที่ติดเชื้อโควิด 19 ใน จ.พะเยา เดินทางไปหาที่ห้องพักพร้อมขอพักค้างคืนด้วย
-วันที่ 29 พ.ย. ช่วงเช้าอยู่กับเพื่อนที่ห้องพัก ส่วนช่วงเย็นไปงานฟาร์มเฟสติวัล จนถึงดึก และสังสรรค์กับเพื่อนจนถึงเช้า
-วันที่ 30 พ.ย. เที่ยงเดินทางไป จ.เชียงใหม่ด้วยรถยนต์ส่วนตัวกับเพื่อนและเดินทางไป จ.พะเยา
-วันที่ 1 ธ.ค.ช่วงเช้าเดินทางกลับด้วยรถโดยสารประจำทางไปไป จ.เชียงรายเพื่อทำงานตามปกติ
-วันที่ 2 ธ.ค. ทราบกลุ่มเพื่อนติดเชื้อโควิด 19 จึงไปตรวจที่ รพ.เอกชน ผลพบติดเชื้อ จึงเข้ารับการรักษาต่อที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์
นพ.ทศเทพ กล่าวว่า จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นพบว่าชายคนดังกล่าวได้มีความสนิทสนมกับกรณีหญิงวัย 28 ปี ซึ่งพบติดเชื้อที่ จ.พะเยา โดยทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน ก่อนหน้านั้นก็ได้มาพักอยุ่ในห้องพักด้วยกันและไปเที่ยวงานฟาร์ม เฟสติวัล และอีกวันก็เดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ ด้วยกัน โดยไม่พบประวัติว่าได้เดินทางไปต่างประเทสหรือพื้นที่ใด ซึ่งจะได้มีการสอบสวนโรคว่าเป้นการติดเชื้อจากหญิงสาวชาว จ.พะเยาหรือไปรับเชื้อจากพื้นใดมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเพิ่งมีการตรวจพบว่าติดเชื้อโดยจะได้ให้ชุดสืบสวนโรคเร่งหากลุ่มเสี่ยงมากเสี่ยงน้อยว่ามีมากน้อยแค่ไหนคาดว่าอาจจะมีพอสมควรเพราะดูจากไทม์ไลน์มีการเดินทางไปหลายแห่งและทำงานในสถาบันบันเทิงที่ตัวเมืองเชียงรายด้วย ซึ่งในวันที่ 4 ธ.ค.จะทราบตัวเลขและกลุ่มที่ชัดเจน
ขณะที่ นพ.ไชยเวช กล่าวว่า ขณะที่ผู้ติดเชื้อทั้ง 7 รายอยู่ในความดูแลของ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งทั้งหมดยังอยู่ในภาวะที่ปลอดภัยไม่พบการติดเชื้อในปอดหรือเชื้ออื่นๆ เพราะการผู้ติดเชื้อทั้งหมดไม่มีมแสดงอาการ โดยทางโรงพยาบาลยืนยันว่าจะสามารถรักษาให้หายได้และมีความพร้อมในการรับสถานการณ์ของผู้ติดเชื้อเพระามีการซักซ้อมแผนรับมือมาตลอด รวมทั้งเครื่องมือและเตียงผู้ป่วยพร้อมเพียง และที่สำคัญพื้นที่รักษาแยกจากผู้ป่วยทั่วไปคนไข้คนอื่นจึงไม่ต้องกัวลอะไร