จ่อ! ขอข้ามแดนอีก 180 ราย สธ.คุมเข้มเสริมรถคัดกรองดูแลใกล้ชิด

2020-12-03 16:35:54

จ่อ! ขอข้ามแดนอีก 180 ราย สธ.คุมเข้มเสริมรถคัดกรองดูแลใกล้ชิด

Advertisement

ที่ปรึกษา สธ.ชี้ เตรียมเสริมรถคัดกรองให้เพียงพอ หลังพบมีคนไทยขอกลับเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก

วันที่ 3 ธ.ค. ที่ด่านพรมแดน ไทย-เมียนมาเแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย นพ.หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจการคัดกรอง รวมไปถึงการตรวจโรคของผู้ที่เดินทางกลับมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งมีการเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการนำสารคัดหลั่งของผู้ที่เดินทางข้ามพรมแดนมาตรวจและส่งตัวไปกักกันโรค 14 วัน ยังสถานที่ซึ่งทางราชการจัดเอาไว้ให้ ซึ่งพบว่าในขณะนี้มีผู้ที่กำลังเดินทางมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉานประเทศเมียนมา อย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการคัดกรองพร้อมทั้งซักประวัติของแต่ละคนก่อนจะทำการตรวจสารคัดหลั่ง ซึ่งบุคคลที่เดินทางเข้ามามีทั้งผู้ที่เป็นประชาชนทั่วไป และกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งที่อยู่ประจำด่านพรมแดนแห่งที่ 2 ซึ่งการเดินทางเข้ามาก็จะต้องมีการคัดกรองทุกครั้ง

นพ.หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ กล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ส่วนหนึ่งมาเพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ และอีกส่วนหนึ่งมาเพื่อดูความพร้อมในเรื่องของอุปกรณ์ต่างๆ และเจ้าหน้าที่ว่า มีเพียงพอหรือไม่ ตอนนี้คนไทยที่ขอเข้ามาพบว่ามีร้อยกว่าคน ซึ่งทุกคนที่เข้ามาต้องกักตัวในสถานที่ที่จัดให้ ตอนนี้มีการประเมินว่าจะส่งมา 180 คน และเราได้เตรียมพื้นที่เอาไว้แล้ว โดยทุกคนที่เข้ามาต้องตรวจหาเชื้อหากพบเชื้อ ต้องตรวจรักษาทันที ส่วนที่ไม่พบเชื้อต้องกักตัว ซึ่งเราจะต้องมีความพร้อมให้เพียงพอกับคนไทยทั้งหมดที่จะเข้ามา โดยนโยบายขอบกระทรวงสาธารณะสุขคือเราจะต้องดูแลคนไทยที่ขอกลับเข้ามา สำหรับคนไทยที่ทำงานอยู่ในสถานบันเทิงใน จ.ท่าเหล็กที่ยังตกค้างอยู่นั้นอยู่ที่ประมาณ 80 กว่าคน ซึ่งได้เป็นพนักงานบริการทั้งหมด มีทั้งที่เป็นคนครัว และพนักงานอื่นๆด้วย แต่ทุกคนที่เข้ามาเราถือว่าเป็นคนที่เสี่ยง ต้องกักตัว ต้องตรวจหาเชื้อ และได้รับการรักษา




ในส่วนของการลักลอบเข้าเมืองน่าจะมีน้อยลงแล้วเพราะทางทหารและตำรวจได้ช่วยกันตรวจตราตามแนวชายแดนอย่างเต็มที่่ อย่างไรก็ตามทางสาธารณสุขก็ได้มอบหมายให้ทาง อสม.คอยตรวจตราในพื้นที่รับผิดชอบของตนเองด้วย หากพบว่าผิดปกติหรือมีบุคคลภายนอกเข้ามาก็ให้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ทันที ซึ่งในพื้นที่แม่สายดูแล้วยังอยู่ในระดับที่ยังควบคุมดูแลได้และไม่น่าหนักใจ สำหรับใครที่ใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยงให้รีบมารายงานและรีบตรวจเชื้อ โดยในวันนี้ได้เน้นทางให้ทางจังหวัดเน้นดูแลผู้ป่วยให้มีความพร้อมเรื่องเวชภัณฑ์ต่างๆ และเครื่องป้องกัน และจะมีการเพิ่มรถพระราชทานเข้ามาในพื้นที่อีก