“ประกันสังคม” แจงข้อเรียกร้องคืนเงินสมทบชราภาพ

2020-12-03 12:00:28

“ประกันสังคม” แจงข้อเรียกร้องคืนเงินสมทบชราภาพ

Advertisement

“ประกันสังคม” แจงข้อเรียกร้องคืนเงินสมทบชราภาพ ระยะแรกช่วยผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ส่วนระยะยาวแก้ ก.ม.ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถนำเงินกองทุนชราภาพมาใช้บางส่วนก่อนกำหนด

จากกรณีข้อเรียกร้องกลุ่มตัวแทนผู้ประกันตนในนามเครือข่ายกลุ่มต่างๆ ได้ยื่นข้อเสนอเรียกร้องให้สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน คืนเงินสมทบชราภาพบางส่วนให้แก่ผู้ประกันตนก่อนกำหนด หรือหาแหล่งเงินกู้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นั้น นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน สั่งการให้สำนักงานประกันสังคม ดำเนินการหาแนวทางศึกษารายละเอียด และขั้นตอนของกฎหมาย ถึงความเป็นไปได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกันตนให้มากที่สุดซึ่งนายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้ดำเนินการตั้งคณะทำงานพิจารณาศึกษา แนวทางช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับความเดือดร้อนให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน และในการประชุมคณะกรรมการประกันสังคม ครั้งที่ 21/2563 วันที่ 27 ต.ค.2563 มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาข้อเรียกร้อง ของกลุ่มแรงงานในการขอใช้เงินกองทุนประกันสังคม กรณีชราภาพก่อนกำหนด (เฉพาะกิจ) ประกอบด้วยผู้แทน จากไตรภาคี คือผู้แทนภาครัฐ ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ลูกจ้าง รวมถึงผู้แทนจากกลุ่มเครือข่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ โดยให้คำนึงถึงข้อดี ข้อเสีย ผลกระทบของแนวทางต่างๆ ต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนในอนาคต เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ประกันตน 

นางบุปผา พันธุ์เพ็ง รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม ชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินการดังกล่าวว่า คณะกรรมการประกันสังคม ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาข้อเรียกร้องของกลุ่มแรงงานในการขอใช้เงินกองทุนประกันสังคมกรณีชราภาพก่อนกำหนด (เฉพาะกิจ) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ โดยให้คำนึงถึงข้อดี ข้อเสีย ผลกระทบของแนวทางต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ประกันตน ซึ่งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจชุดนี้ ได้ร่วมประชุมหารือในเรื่องนี้ 2 ครั้ง ล่าสุดในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2563 ได้มีมติให้มีการดำเนินการ 2 ระยะ คือ ในระยะแรกให้ดำเนินการช่วยเหลือ ผู้ประกันตนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ ดอกเบี้ยต่ำ โดยผ่านสถาบันการเงิน ส่วนระยะยาว สำนักงานประกันสังคมจะต้องดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถนำเงินกองทุนชราภาพของผู้ประกันตนมาใช้บางส่วนก่อนกำหนด โดยจะนำมติของคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเสนอคณะกรรมการประกันสังคมเพื่อพิจารณาต่อไป