“บุญลือ” เดินหน้าคุ้มครองมวยเด็ก

2020-12-02 18:30:36

“บุญลือ” เดินหน้าคุ้มครองมวยเด็ก

Advertisement

“บุญลือ” เดินหน้าคุ้มครองมวยเด็ก ให้นักกีฬากู้ยืมเงินตามมาตรา 9 พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่รัฐสภา ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานประชุมคณะกรรมาธิการกีฬาครั้งที่ 30  โดย ดร.เอกการ ซื่อทรงธรรม ประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามผลกระทบทางด้านการกีฬาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กล่าวว่า คณะอนุ กมธ.ได้มีมติร่วมกันให้กองนิติการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ดำเนินการศึกษากฏหมายและระะเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการวางหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการให้ยืมเงิน ตามมาตรา  9 แห่ง พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 ซึ่ง กกท. จะทำการจัดทำแนวทางและขั้นตอนทางกฏหมายในการใช้เงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติเพื่อให้นักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬา ได้กู้เงินหรือให้ยืมเงิน ซึ่งจะมีการยกร่างหลักการเหตุผล เสนอผู้ว่า กกท. และขออนุมัติตามลำดับตามขั้นตอน ที่จะมีการหารือกับผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติเพื่อแก้ไขระเบียบคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้สามารถนำเงินกองทุนมาใช้กับนักกีฬาให้มากที่สุด

 

ด้าน ดร.สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษา พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 กล่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการศึกษา พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ได้จัดประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2563 ถึงปัจจุบันรวม 13 ครั้ง แบ่งภาระกิจเป็น 2 รูปแบบ คือการพิจารณารับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานรัฐและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในวงการกีฬามวยที่ขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย จำนวน 7 กลุ่ม ประกอบด้วย นักมวย อายุ 15-17 ปี และนักมวยอายุ 18 ปีขึ้นไป ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน ผู้จัดการมวย ผู้จัดรายการแข่งขัน นายสนามมวยและหัวหน้าค่ายมวย ได้อภิปรายถึงปัญหาอุปสรรคของหน่วยงานรัฐผู้บังคับใช้กฏหมายและหัวหน้าค่าย ตั้งแต่คำนิยามของคำว่า “กีฬามวย” และสิ่งที่บัญญัติในการจำกัดอายุนักมวยต้องมีอายุ 15 ปี ขึ้นไปถึงจะขึ้นชกได้ทั้งที่การฝึกมวยจะเริ่มตั้งแต่อายุ 8 ปี และการพิจารณากำหนดให้มีอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมให้แก่นักมวยเด็กเมื่อแข่งขันกีฬามวยให้มีมาตรฐานสากล  ประเด็นสำคัญมีการนำเสนอให้แยกกองทุนกีฬามวยออกจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ให้มีการตั้งคณะกรรมการผู้ติดสินกีฬามวยที่เป็นคณะกรรมการกลาง,แก้ไขโครงสร้างกีฬามวยใน กกท.และมีการกำหนดบทลงโทษกรณีล้มมวยอย่างชัดเจนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม,การบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ควรคำนึงถึงนักมวยต่างชาติที่เข้ามาแข่งขันกีฬามวยในประเทศไทย ให้ได้รับสิทธิและประโยชน์ รวมถึงการคุ้มครองจากการแข่งขันมวยในประเทศไทย การพิจารณาศึกษาข้อกำหนดเกี่ยวกับวันพักหลังจากการขึ้นชกมวย และการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ควรมีการจัดเสวนรับฟังความคิดเห็นของบุคลากรในวงการมวยอย่างทั่วถึง ทั้งนักมวย หัวหน้าค่ายมวย ผู้จัดการแข่งขันและผู้ฝึกสอนกีฬามวย เพื่อให้มีกฏหมายที่ใช้บังคับแก่บุคลากรกีฬามวยอันเป็นที่ยอมรับจากทุกกฝ่ายในวงการกีฬามวย สิ่งสำคัญในการแก้ไขกฏหมาย คณะอนุ กมธ. ได้ทำการเปิดกรอบกฏหมายเพื่อทำการคุ้มครองมวยเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีลง ให้มีการถกแถลงเพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงเพื่อบัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ซึ่งจะครอบคลุมไปถึงกฏ กติกา ในการชกมวยให้เกิดความปลอดภัยและให้มวยเป็นกีฬาประจำชาติไทยสืบไป


ด้าน ดร.บุญลือ กล่าวว่า ในการทำงานทั้ง 2 อนุ กมธ. ยังคงต้องทำต่อและที่ประชุมมีมติให้ทำการศึกษาต่อไปอีก 30 วัน ซึ่งในส่วนของ คณะอนุกรรมาธิการติดตามผลกระทบทางด้านการกีฬาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ให้พิจารณาติดตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558  ที่ยังรอผลการนำเสนอจากฝ่ายนิติการ กกท. ส่วน คณะอนุกรรมาธิการศึกษา พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ให้หาทางออกเกี่ยวกับการดูแลนักกีฬาและการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาบาดเจ็บหรือเงื่อนไขของอายุนักมวยที่จะต้องไม่กระทบต่อสิทธิประโยชน์ของนักมวยรวมถึงกฏหมายที่มีการโต้แย้งกัน เพื่อให้การแก้ไข พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 ที่กำลังทำการแก้ไขให้นักกีฬามวยได้ประโยชน์จาก พ.ร.บ.นี้สูงสุดต่อไป