"เจ้าของ" ร้านขายชุดนักเรียน ยืนยันไม่กังวลหาก นร.หันไปใส่ "ชุดไปเวท" ชี้แค่คนกลุ่มน้อย
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. จากกรณีกลุ่มนักเรียนเลว และภาคีนักเรียน KKC ทำแคมเปญ 1ธันวาบอกลาเครื่องแบบนักเรียนและเชิญชวนให้ใส่ชุดไปรเวทไปโรงเรียนในวันเปิดเทอม 1 ธ.ค.นี้ โดยอ้างสถิติปี 2561 มีนักเรียนกว่า 3 ล้าน 5 แสนคนขาดแคลนชุดนักเรียน และเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ส่งผลให้เด็กนักเรียนจำนวนหนึ่งแต่งชุดไปรเวทมาในวันเปิดภาคเรียน เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทีมข่าว NEW18 จึงลงพื้นที่สำรวจ ร้านศรีสุวรรณ ซึ่งเปิดเป็นร้านขายชุดนักเรียนย่านประชาสงเคราะห์ โดยเจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า ร้านนี้เปิดขายมาเกือบ 50 ปี ตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่และตกมาสู่รุ่นตน ซึ่งรับช่วงต่อกันมา วันนี้ก็มีผู้ปกครองพานักเรียนมาซื้อชุดนักเรียน แต่จะขายดี คือ ในช่วงเทอมใหญ่ ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่ร้านก็เต็มไปด้วยลูกค้าที่จูงลูกจูงหลานมาซื้อชุดชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน ซึ่งมีทั้งของโรงเรียนรัฐบาลและเอกชน
เจ้าของร้าน กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ตนทราบข่าวว่ามีการใส่ชุดไปรเวทไปโรงเรียน ซึ่งไม่ทราบว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่โดยส่วนตัวไม่รู้สึกกังวลใจ เพราะคิดว่าเป็นแค่นักเรียนบางกลุ่มเท่านั้น ประกอบกับทุกวันนี้ยังมีเด็กสวมใส่ชุดนักเรียนกันตามปกติ เพราะการแต่งชุดนักเรียนจะดูดีกว่า เป็นระเบียบกว่า ส่วนตัวคิดว่าหากแต่งชุดไปรเวทแล้วคุณครูจะควบคุมยาก เนื่องจากแยกไม่ออกว่าจะมาหรือไป หากแต่งชุดนักเรียนก็จะทราบแน่นอนว่าโรงเรียนเลิกแล้วหรือไม่ เพราะออกก่อนเวลาไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากเป็นชุดไปรเวทเราก็จะไม่รู้ว่าเป็นเด็กนักเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้มีลุกค้ากลุ่มใหม่ คือ ผู้สูงอายุ มักนิยมมาซื้อชุดนักเรียนไปปาร์ตี้ย้อนยุคกันเป็นจำนวนมากอีกด้วย