"อนุทิน"อัดยับ"เห็นแก่ตัวลักลอบเข้า ปท.แพร่เชื้อ"โควิด"

2020-12-01 11:35:35

"อนุทิน"อัดยับ"เห็นแก่ตัวลักลอบเข้า ปท.แพร่เชื้อ"โควิด"

Advertisement

"อนุทิน" อัดยับ "คนเห็นแก่ตัว" ลักลอบเข้าประเทศติด "โควิด" ย้ำคุมเข้มช่องทางธรรมชาติ


เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ จ.เชียงใหม่ ว่า ขณะนี้เรามีการตรวจซ้ำเพื่อขยายผลให้มากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เกิดจากความเห็นแก่ตัวของคนไม่กี่คน ซึ่งทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนคนจำนวนมาก เนื่องจากเรามีการประกาศหลายครั้งว่าห้ามเดินทางออกนอกประเทศ แต่ปรากฏว่ามีถึง 2-3 ราย หรือมากกว่านั้น ยังเดินทางเข้า-ออกเป็นว่าเล่นผ่านช่องทางธรรมชาติซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ตนจึงสั่งการให้สาธารณสุขจังหวัด ดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนให้ถึงที่สุด เพราะถือว่าเป็นการทำร้ายบ้านเมือง จึงไม่ควรสงสารหรือให้ความชื่นชมคนที่ทำความเดือดร้อน ทั้งๆ ที่เรากำลังจะเปิดประเทศ แต่ต้องมาทบทวนวิธีมาตรการผ่อนคลายกันใหม่


ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการจัดรถชีวนิรภัยพระราชทานไปตรวจในพื้นที่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มีการส่งไปตลอด แต่เพราะความเห็นแก่ตัวของคนไม่กี่คนต้องทำให้เราเสียงบประมาณเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่ในความจริงหากกลับมาก็ควรกักตัว แต่กลับไปเที่ยวห้าง กินหมูกะทะ ไปหลับนอนอะไรเยอะแยะไปหมด แล้วพอป่วยก็ไม่กล้าบอกความจริง ตนขอชื่นชมตำรวจและฝ่ายปกครองที่ไปตรวจสอบจากโทรศัพท์ จึงทราบว่าบุคคลดังกล่าวเดินทางไปที่ไหนมาบ้าง ตอนนี้อยากบอกว่าบุคคลดังกล่าวแย่มาก ส่วนการดำเนินคดีนั้น จะใช้ทุกมาตรา อาทิ ลักลอบเข้าเมือง ผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ ไม่ปฏิบัติตามกฎการกักตัว 14 วัน แม้กระทั่งโรงแรมที่ให้เข้าพักก็อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายด้วย เพราะตามปกติหากมีคนแปลกหน้าเข้ามาพัก ก็ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบ โดยทางสาธารณสุขจังหวัด จะเป็นผู้นำเรื่องเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นเจ้าภาพในการแจ้งความ ร้องทุกข์ ดำเนินคดี หรือหากมีช่องทางให้กระทรวงสาธารสุข สามารถดำเนินคดีได้ ก็จะดำเนินการเอง


นายอนุทิน กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ขยายผลตรวจสอบบุคคลใกล้ชิดไปบ้างแล้ว ซึ่งผลส่วนใหญ่ออกมาเป็นลบ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ บุคคลที่สัมผัสผู้ติดเชื้อทั้ง 3 รายนี้ให้มาหาเรา อย่าให้เราต้องไปตาม เพื่อที่จะได้ตรวจหาเชื้อและสร้างความมั่นใจให้กับสังคม โดยขณะนี้ทำงานตรวจเชิงรุกอย่างเต็มที่ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราต้องสูญเสียทรัพยากรมากมายมหาศาล เพราะต้องทำให้สถานการณ์เรียบร้อยเพียงเพราะการกระทำของคนเห็นแก่ตัวไม่กี่คน เมื่อถามว่า หากมีการตรวจสอบพบผู้ป่วยเพิ่ม จำเป็นต้องปิด จ.เชียงใหม่ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าควรไปตรวจสอบช่องทางธรรมชาติตามตะเข็บชายแดน เพราะตามด่านนั้นไม่มีปัญหา และไม่มีทางหลุดรอดได้แน่นอน เหมือนกับที่สุวรรณภูมิ และดอนเมือง ที่ไม่มีการหลุดออกมาเลย แต่กรณีที่ลักลอบเข้ามาผ่านป่า ผ่านห้วย ลำคลอง เข้ามาทำไม่ได้ เป็นเรื่องของจิตสำนึก




เมื่อถามว่า จะสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้อย่างไร เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูท่องเที่ยว นายอนุทิน กล่าวว่า เอาเป็นว่าขอให้ใส่หน้ากากอนามัย อย่าไปตกใจกับสิ่งเหล่านี้ เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนที่ระบาดใหม่ๆ วันนี้เราเข้าใจสถานการณ์ของโรคเป็นอย่างดี การตรวจสอบ ป้องกันและควบคุมเราทำได้ดี ที่สำคัญ คือ เรามียา เวชภัณฑ์พร้อม โดยปกติถ้าเรามีสุขภาพแข็งแรงโรคนี้ก็ทำอะไรเราไม่ได้ ดังนั้นอย่ากังวลจนเกินเหตุ สรุป คือ ขณะนี้เรามีความพร้อมเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาคาดการณ์กันไว้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเกิดกับคนไทยด้วยกันเอง แต่ไม่เป็นไร เรื่องชีวิตและสุขภาพเราต้องดูแลทุกคน