รองอธิบดีกรมอนามัยเผยคนไทยสวมหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการรถสาธารณะต่ำกว่าเป้า วอนการ์ดไม่ตก สวมหน้ากากทุกครั้งเมื่อใช้บริการรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังร่วมงานแถลงข่าวโครงการสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการสาธารณะแบบราง ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ สะอาด ปลอดภัย มั่นใจระบบรถขนส่งสาธารณะแบบราง (รถไฟฟ้า)” ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว กทม. ว่า ในแต่ละวันมีผู้โดยสารที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะประเภทรถไฟฟ้าจำนวนมาก ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคโควิด 19 ที่ต้องเฝ้าระวังกันอย่างต่อเนื่อง ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะจึงต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ตั้งแต่ 1) อาคารสถานีโดยสาร จัดให้มีการคัดกรองผู้โดยสาร โดยควบคุมบริเวณทางเข้าออก พร้อมลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม "ไทยชนะ" จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ ให้เพียงพอ มีการทำความสะอาดบริเวณสถานี และจุดสัมผัสร่วมบ่อย ๆ เช่น เคาท์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ราวบันได จัดระยะห่างระหว่างรอคิวมากกว่า 1 เมตร ทั้งบริเวณชานชาลา และมีการระบายอากาศที่ดี ทำความสะอาดระบบปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ 2) ยานพาหนะ ต้องทำความสะอาดจุดเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ประตู ราวจับ เบาะนั่ง พนักพิง และ จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ในรถโดยสาร 3) พนักงานขับรถและพนักงาน ผู้ให้บริการ ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ระหว่างที่ให้บริการและหมั่นสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการไข้ ไอ จาม ให้งดปฏิบัติงาน และ 4) ผู้โดยสาร ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
"จากผลการสำรวจอนามัยโพลพฤติกรรมการป้องกันตนเองของประชาชนทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2563 จำนวน 12,842 คน พบว่า ประชาชนร้อยละ 85.3 สวมหน้ากากเป็นประจำ โดยสวมตลอดเวลาขณะใช้บริการรถสาธารณะ ร้อยละ 71.57 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่กระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ให้คนไทยสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีคนรวมตัวกัน สถานที่แออัด เพื่อป้องกันโรคโควิด 19 คือ มากกว่าร้อยละ 85 ดังนั้น ประชาชนผู้ใช้บริการจึงต้องร่วมมือกัน การ์ดไม่ตก สวมหน้ากากทุกครั้งเมื่อใช้บริการรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ รวมถึงงดคุยโทรศัพท์ เลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีคนแออัดและช่วงเร่งด่วน หากมีอาการไข้ ไอ จาม ให้เลี่ยงการออกนอกบ้านหรือใช้บริการรถขนส่งสาธารณะ และหมั่นล้างมือด้วยสบู่และเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ด้วย” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
