"ธนาธร" ลุยมุกดาหาร อำนาจเจริญช่วยผู้สมัครนายก อบจ. หาเสียงซัด "มท.- อปท." ไม่โปรโมทเลือกตั้งท้องถิ่น
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ตลาดเทศบาลนิคมคำสร้อย อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินทางช่วยรณรงค์หาเสียง พร้อมกับนายสุพจน์ สุอริยพงษ์ ผู้สมัครนายก อบจ. มุกดาหารเบอร์ 1 ในนามคณะก้าวหน้า และทีมผู้สมัคร ส.อบจ. โดยนายธนาธรขึ้นปราศรัยกับพี่น้องประชาชนบริเวณหน้าตลาดตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นการกำหนดอนาคตของประเทศไทย วันนี้กลุ่มคนที่ยึดอำนาจจากประชาชนในการทำรัฐประหาร ยังครองอำนาจอยู่ พวกเขามีทั้งกองทัพมีทั้งปืน พวกเขามีทั้งกฎหมายมีทั้งตำรวจ พวกเขาย่ำยีและปิดปากประชาชน จับประชาชนผู้เห็นต่างเข้าคุก และพวกเขาไม่ฟังเสียงประชาชน ซึ่งการเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้ ตนประชาสัมพันธ์คนเดียวอย่างไรก็ไม่ทั่วถึง ยังมีพี่น้องประชาชนอีกมากที่ยังไม่รู้ว่าวันที่ 20 ธ.ค. จะมีการเลือกท้องถิ่นเกิดขึ้น ตนอยากให้พี่น้องประชาชนช่วยกันประชาสัมพันธ์ออกไป เพราะกระทรวงมหาดไทยไม่ทำงาน เพราะ อปท.ไม่ทำงาน เขาไม่อยากให้ประชาชนออกไปเลือกตั้ง เพราะถ้าประชาชนที่มีเจตจำนงเสรีไม่ได้ออกไปเลือกตั้ง คนที่จะออกไปเลือกตั้งก็จะมีแต่คะแนนจากจัดตั้ง คะแนนจากระบบอุปถัมภ์ ดังนั้น เราจึงไม่เห็นมีหน่วยงานไหนช่วยโปรโมทเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นเลย ตนจึงอยากให้พี่น้องประชาชนออกไปต่อสู้กับผู้มีอำนาจผ่านบัตรเลือกตั้ง และแสดงให้พวกเขาเห็นว่า บัตรเลือกตั้งนั้นแข็งแกร่งกว่าลูกปืน
"ผมมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า คุณสุพจน์ไม่ได้มาลงแข่งขันการเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. เพราะต้องการเอาภาษีของพวกท่านมาสร้างความร่ำรวยและมั่งคั่งให้กับตนเองและพวกพ้อง แต่พวกเรามาที่นี่เพราะต้องการผลักดันการเมืองท้องถิ่นให้ดีขึ้น สร้างสังคมให้น่าอยู่ ลดความเหลื่อมล้ำ นั่นคือวัตถุประสงค์ของพวกเรา และนี่คือคำสัญญาที่ให้แก่กันได้ 1.จุดยืนประชาธิปไตยยังมั่นคง 2.ไม่ซื้อสิทธิ์ไม่ซื้อเสียง 3.ไม่ทุจริตคอรับชั่น" นายธนาธร กล่าว
ด้าน นายสุพจน์ กล่าวว่า ตนขออาสาเข้ามาบริหารและรับใช้ประชาชนชาวมุกดาหาร และสามารถสัญญากับประชาชนชาวมุกดาหารได้อยู่ 3 ข้อ หากได้รับความไว้วางใจเข้าไปบริหาร นั่นก็คือ 1.จุดยืนประชาธิปไตยที่มั่นคง ตนไม่ใช่งูเห่าอย่างแน่นอน 2.ยืนยันที่จะทำแนวทางแบบพรรคอนาคตใหม่ในการทำงานการเมือง โดยการยืนยันที่จะไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ตนจะทำนโนบายที่ดี ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมุกดาหารอย่างสูงสุด และ 3.หากตนได้รับความไว้วางใจจากให้เข้าไปบริหารขับเคลื่อนจังหวัดมุกดาหาร จะไม่มีการทุจริตคอรับชั่นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ต่อมา เวลา 13.00 น. นายธนาธร เดินทางต่อไปยังจังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อรณรงค์หาเสียงให้กับ นายชัยศรี กีฬา ผู้สมัครนายก อบจ. เบอร์ 4 ในนามคณะก้าวหน้า และทีมผู้สมัคร ส.อบจ. โดยเริ่มหาเสียงจากจุดแรกที่ตลาดเทศบาลเสนางคนิคม ต่อมาเดินทางไปยังบ่อขยะเทศบาลไก่คำ เพื่อดูนโยบายเกี่ยวกับการกำจัดขยะของจังหวัดอำนาจเจริญ ในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ จากนั้น เดินทางต่อไปยังตลาดสดเทศบาลตำบลหัวตะพานและตลาดสดเทศบาลตำบลน้ำปลีก เพื่อขึ้นปราศรัยแนะนำตัวผู้สมัครนายก อบจ.
นายธนาธร ระบุว่า การจัดการบริหารบ่อขยะของอำนาจเจริญตอนนี้ ยังไม่สามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร ซึ่งโรงคัดแยกขยะแห่งนี้ สามารถคัดแยกขยะได้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ของขยะที่เข้ามาในแต่ละวัน นั่นหมายความว่าอีก 80 เปอร์เซ็นต์ จะถูกนำไปฝังกลบโดยตรง โดยไม่ได้คัดแยก พวกเรามาดูที่นี่เพื่อที่จะพยายามศึกษาหาวิธีว่าจะทำอย่างไรกับขยะในอำนาจเจริญ ที่จะได้ถูกจัดการอย่างถูกสุขลักษณะเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญก็คือ หากเราไม่รีบหาวิธีจัดการกับขยะในบ่อขยะที่มีพื้นที่เกือบ 100 ไร่ ที่กำลังจะเต็มในไม่ช้า หมายความว่าอีกไม่นาน ขยะในจังหวัดอำนาจเจริญไม่รู้จะเอาไปฝังไว้ที่ไหน
ด้าน นายชัยศรี กล่าวว่า หนึ่งในนโยบายของตน คือการพัฒนาระบบการจัดการขยะในจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งตนมีแนวคิดที่อยากจะช่วยรณรงค์ให้เกิดการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง โดยจะรณรงค์ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นเทศบาล หรือ อบต. แม้ปัญหาของอำนาจเจริญจะมีอยู่หลายอย่าง แต่ปัญหาการจัดการขยะและมลภาวะที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งของจังหวัดเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ งบประมาณของจังหวัดอำนาจเจริญที่มีกว่า 300 ล้านบาทต่อปี หรือ 1,200 ล้านบาทต่อหนึ่งวาระ ตนจะมุ่งมั่นพัฒนาอำนาจเจริญ ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนให้สูงที่สุด และจะใช้งบประมาณอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้