รับงานละครแล้ว "มาช่า"เผย"น้องกาย"ไม่ทิ้งงานวงการบันเทิง

2020-11-10 13:50:50

รับงานละครแล้ว "มาช่า"เผย"น้องกาย"ไม่ทิ้งงานวงการบันเทิง

Advertisement

กลับมารับงานละครให้แฟนๆได้หายคิดถึงกันแล้วสำหรับซูเปอร์สตาร์สาว"มาช่า วัฒนพานิช" ที่ครั้งนี้เจ้าตัวเผยว่าเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญที่แฟนๆไม่ควรพลาด จากนั้นเลยถามถึงเรื่องของลูกชายสุดหล่ออย่าง"น้องกาย  ชัยธรรศ" เกี่ยวกับเรื่องงานในวงการบันเทิงพร้อมอัพเดทเรื่องหัวใจ โดยคุณแม่คนสวยได้เผยถึงเรื่องราวต่างๆว่า



กลับมาเจอสื่ออีกครั้งในรอบเกือบปี?

ครั้งสุดท้ายช่าว่าน่าจะเป็นช่วงคอนเสิร์ต ตอนที่เล่น 11 คนที่เป็นคอนเสิร์ตพี่ดี้ นิติพงษ์ กับพี่บอย โกสิยพงษ์ หลังจากนั้นมาพอปลายปี ก็เริ่มคุยเรื่องละครแล้ว ก็ถือว่าโชคดีนะเพราะเราถ่ายไปจนถึงปลายมีนาคมแล้วถึงได้เกิดโควิดขึ้น พอเกิดเหตุการณ์ก็หยุดไป แต่พอกลับมาถ่ายทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี สำหรับเรื่องนี้บทคอมเมดี้ก็ไม่ค่อยห่วงอะไรมากเท่าไหร่ เล่นกับพี่วิลลี่ แมคอินทอช ไม่ต้องคิดอะไรมาก เห็นหน้าก็ขำแล้ว ห่วงในเรื่องที่ต้องเล่นเป็นผู้ชาย และแอคชั่นกับผู้ชายมากกว่า สรีระเรามันเป็นผู้หญิงแต่ต้องพยายามทำให้แข็งแรงที่สุด เราต้องเล่นจริงจัง ถ้าสมมติว่าเราเล่นไม่แข็งแรงมันจะดูไม่จริงจัง ก็เลยรู้สึกว่ามันเหนื่อยอยู่ เพราะระหว่างที่จริงจัง มันก็คอมเมดี้ด้วย แต่ตอนเด็กๆ เล่นหนังบู๊มาอยู่แล้ว การเตะการต่อยมันก็เลยไม่ใช่เรื่องยากมาก เพียงแต่จะมีนิดหนึ่ง ที่สมัยนี้เขาจะมีท่าทางที่มันแปลกใหม่ขึ้นมา ซึ่งเราก็ต้องฝึก เราเป็นคนทำงานหลายแบบ กำลังนั่งคิดเหมือนกันว่าทำไมไม่รับละคร เล่นทั้งคอนเสิร์ต เล่นออกรายการด้วย แต่จริงๆ 2 ปีที่แล้วก็เล่นเรื่องภาพลวงตาคู่กับปีเตอร์ แล้วหลังจากนั้นมาพอทัวร์คอนเสิร์ตก็ทัวร์แบบขึ้นเหนือลงใต้ ออกต่างประเทศ พอกลับมาถึงรู้สึกว่าโชคดีที่อยากรับละครแล้ว แต่พอมาเล่นก็โควิดพอดีเลย ก็เลยยังถือว่ายังได้ทำงาน เพราะถ้าเล่นคอนเสิร์ตต้องหยุดไปเลย




มีละครติดต่อมาเยอะไหม?

มีค่ะ แต่บางทีก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเข้ากับคาแรคเตอร์ แต่จะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้ เพราะเวลาเราเป็นนักแสดงเราต้องเป็นคาแรคเตอร์ของเขาอยู่แล้ว เพียงแต่เรารู้สึกคาแรคเตอร์ตัวนี้มันดูจากใจเรา แล้วเรายังรู้สึกไม่อินเท่าไหร่ เลยยังไม่พร้อมที่จะเล่นตอนนี้ แล้วบางครั้งก็ติดต่อมาในเวลาที่กำลังทัวร์คอนเสิร์ต ซึ่งไม่สามารถรับงานได้ 7 วัน เพราะเราต้องมีเวลาให้ตัวเองบ้าง การทำงานไม่ใช่ว่าเราทำงานหาเงินเพื่อมารักษาสุขภาพ เราต้องทำงานในจังหวะหนึ่ง ปริมาณหนึ่ง แล้วก็รักษาสุขภาพด้วย ยิ่งเราทำงานหน้ากล้อง เรื่องความสวยก็ต้องดูแลด้วย เพราะฉะนั้นยิ่งเป็นผู้หญิงมันดับเบิ้ลเลย แค่แต่งตัวไปเล่นคอนเสิร์ตก็ยากกว่าผู้ชายแล้วค่ะ เยอะไปหมด บางทีก็รู้สึกเหนื่อย อยากใส่ผ้าใบกับกางเกงยีนส์ ใส่หมวกแก๊ป

เรื่องนี้ดูห้าวขึ้นเยอะเลย มีติดคาแร็กเตอร์ไปบ้างไหม?
ไม่ค่ะ คาแร็กเตอร์ช่าไม่ใช่สาวหวานอยู่แล้ว จริง ช่าก็เป็นคนแบบนี้ แต่ว่าเวลาเล่นละครยากกว่าอีก ขนาดว่าแมนๆก็ยังต้องบิ้วขึ้นอีก เวลาเดินพี่ช่าก็จะไม่เดินห่อไหล่ ต้องมีสติรู้ตัวตลอดเวลาว่าเรากำลังเป็นพี่วิลลี่นะ แล้วเขาเป็นมาเฟียต้องเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาบางทีก็มีเหนื่อยๆ เราต้องคิดว่าถ้าเป็นผู้ชายเขาจะยังไง วิลลี่เขาก็น่ารักบางทีเขาจะเดินมาบอกว่าช่าทะลึ่งได้มากกว่านั้นอีก ช่าก็บอกว่าพี่เป็นผู้ชายพี่ทะลึ่งได้ เขาก็บอกนั่นแหละใส่ไปเลย ตรงนี้มันก็จะเป็นมุขหนึ่งที่ก็ต้องขอบคุณพี่วิลลี่ที่เขาช่วยสอนเราในมุมที่บางทีเราก็ไม่ค่อยกล้า เพราะรู้สึกว่าจั๊กเดียมไปนิดหนึ่ง ถามว่าตบมุขกันทันไหม ทันค่ะ เพราะว่าช่ากับพี่วิลลี่เล่นกันมา 3 เรื่องแล้ว แล้วก็หนังบู๊ทั้งนั้นเลยนะ ที่เล่นสมัยก่อนก็บู๊หนักกว่านี้อีก แต่ถ้าจะมีไม่ทันก็แบบแกไม่ได้เตรียมตัว มาเล่นมุกสดในตอนที่กำลังแสดง บางทีเราก็จะหลุดแต่ว่ามันก็หลุดไม่ได้ อีกอย่างคือมันยากคนเขาก็ตั้งสลิงอยู่ข้างบน ถ้าเราหลุดบ่อยๆ เขาก็จะเหนื่อย บางทีก็ต้องกัดฟันไปตีกันข้างนอกฉาก ว่าเล่นอย่างนี้อีกแล้วเหรอ ต้องคอยระวังพี่วิลลี่ เขาจะมีมุขที่บางทีเราจะหลุด แต่ว่าเราก็จะหลุดไม่ได้เพราะบางอย่างไม่รอคอยให้เรา





ก่อนหน้านี้เซ็กซี่ทะเลเดือดเลย แต่หุ่นยังเป๊ะปังเหมือนเดิม?

จริงๆช่าตอนนี้ต้องถามตัวเองว่ายังไม่ได้ทำอะไรบ้างมากกว่า คือทำมาหมดแล้ว เดี๋ยวนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรละ ทำไปจนจะทุกทรงละ แต่งตัวก็จนจะไม่รู้จะทำอะไรแล้ว แต่งซะทุกอย่างแล้ว คือจริงๆช่าว่าการดำรงอยู่ในเส้นในสิ่งที่เราต้องทำตรงนี้มันยากกว่าเพราะในการทำงานที่ช่าทำมานานมาก แล้วยังอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ ช่าต้องขอบคุณทุกคนด้วย ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงทุกท่าน นักข่าว ประชาชน แฟนๆ ทั้งหลาย เรียกว่าเป็นเวลาที่ยาวนานมากพอสมควรแล้ว แต่ช่าก็ไม่ได้ปล่อยปะละเลยนะ ดูแลสุขภาพเท่าที่ทำได้(หัวเราะ)

ที่เราถ่ายแบบช่วงเดือนกรกฎา หลายคนบอกว่าเลียนแบบเราไม่ได้เลย?

อันไหนก็ไม่รู้ เยอะมาก บางคนมาถามช่าจำได้ไหม บางทีเดี๋ยวนี้ก็จำไม่ได้แล้วนะเพราะว่าพี่ช่าคิดว่ามีมากกว่า 5-6 หมื่นภาพแล้วมั้ง ตัวเองบางทียังแบบ นี่ฉันเหรอ เมื่อก่อนยังมีเก็บนะตอนเด็กๆ



แม่ก็คือแม่ไม่มีใครชนะได้เลย?

เดี๋ยวนี้เหมือนกับว่าเราทำงานเสร็จ เราอยู่กับเฉพาะตรงนั้น พอเสร็จก็ไม่คิดอะไรแล้ว มันเยอะจนที่เราจะเก็บเมมโมรี่นี้แล้ว เราก็ทำให้ดีที่สุดในแต่ละสิ่ง แต่ละพาร์ท แต่ละวันแล้วก็ปล่อยผ่าน บางทีคนมาถามจำได้ไหม บางทีเราก็อยากจะจำนะแต่บางทีเมมโมรี่เราก็ไม่ไหวจะจำ มันจะ 30 กว่าปีแล้วนะวงการนี้ เราว่าเราเจอคนมากกว่า 20 ล้าน ในเมืองไทย

เรียกว่าเป็นเจ้าแม่ได้ไหม?

คำว่าแม่มันก็เป็นอะไรที่ทุกคนก็เป็น ช่าว่ามันอยู่ที่เรื่องความชอบเรื่องรถสนิยมของแต่ละคน บางคนก็อาจจะชอบแนวหวานหน่อยเปรี้ยวปากหน่อย แต่บางคนก็อาจจะชอบแนวของช่า อันนี้มันก็แล้วแต่รสนิยมของแฟนๆ แต่ละคน แต่ถามช่าตอนนี้คิดว่าไม่ได้ทำอะไร เพราะว่าทำมาหมดแล้วจริงๆ เหลือแค่ว่ารักษาคุณภาพให้ได้ไว้ตลอดแล้วกัน

ชุดว่ายน้ำเราเลือกเองไหม?



บางทีก็เลือกเอง บางทีก็เลือกไม่ได้เองเหมือนกัน ก็มีบางคนเขาบอกว่าใส่หน่า...บางทีเราก็แบบว่ามาขนาดนี้ละ ไม่รู้ว่าจะไม่ใส่ยังไง

เราจัดเต็มทุกครั้งเวลาใส่ชุดว่ายน้ำเลยไหม?
ช่ามีนิสัยอย่างหนึ่งที่เวลาจะทำอะไรจะทำแบบเต็มที่ค่ะ บางครั้งก็บอกตรงๆ ว่ามันอันตรายต่อตัวเองเหมือนกันวันที่เล่นกองถ่ายวันสุดท้ายเป็นวันที่แบบว่า..คือเล่นเรื่องนี้ปลอดภัยมาตลอดเลยนะคะ แต่วันนั้นอาจจะเป็นวันที่พี่ช่าเล่ยบู๊มาตั้งแต่บ่าย 3 ไม่หยุดเลยเพราะจะปิดกล้องแล้ว ปรากฎว่าซีนสุดท้ายเดินไปเหยัยบตะปูเต็มๆ ทะลุเลย เราลงเต็มเท้าไง วันนั้นพอเสร็จทุกคนก็บอกว่าพี่ช่าไปฉีดยาบาดทะยักเถอะ ตอนแรกว่าจะไม่ไปฉีด ก็เลยไปโรงพยาบาล ก็ใจเสียนิดหน่อย ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่ามันยังไง แต่จริงๆ ตอนนั้นเวลามันอยู่ในงานเราต้องเล่นต่อ ต้องทำให้เสร็จ แต่ทีมงานเขาก็น่ารัก เขาก็มาดูแลพันผ้าให้เสร็จแล้วก็เล่นต่อ พอจบแล้วก็ไปโรงพยาบาล ฉีดยา(หัวเราะ) ก็เลยแลบขำๆว่ารับปิดกล้องพอดี



น้องกายไม่รับงานในวงการบันเทิงแล้วเหรอ?

คือกายเขาก็มีงานส่วนตัวของเขา เดี๋ยวอีกสักพักค่ะ เพราะเขาก็มีละครติดต่อมาเหมือนกัน แต่ว่าด้วยโควิดและสถานการณ์ต่างๆ ก็เข้าใจ เหมือนอย่างละครช่าก็เสร็จไปตั้งนานแล้ว แต่ด้วยคิว ด้วยอะไร ทุกคนเจอกันหมดค่ะ มันเป็นผลกระทบ เดี๋ยวรอดูว่าปีหน้าเป็นอย่างไรบ้าง

คือยังทำงานในวงการบันเทิงอยู่ใช่ไหม?

ใช่ค่ะ ยังทำอยู่ แต่คราวนี้กายเขาก็มีเรื่องส่วนตัวของเขา มีงานของเขาด้วย เหมือนเขาก็ไม่ได้ว่างซะทีเดียว ช่าคิดว่าถ้าปีนี้คงไม่น่าจะทันน่าจะเป็นปีหน้าค่ะ




ช่วงนี้น้องกายดูหล่อ?

แล้วแต่อารมณ์เขาค่ะ บางวันเขาอยากแต่งหล่อก็หล่อ บางวันเขาอยากเซอร์ก็เซอร์ซะจนแบบว่าเข้าใจค่ะ เพราะเขาเป็นเด็กผู้ชาย เขาก็จะไม่ได้จุกจิกเหมือนผู้หญิง เขาก็จะสบายๆ

คุยกับเราตลอดไหม?

ช่วงนี้จะไม่ค่อยนะคะ ยกเว้นว่าถ้าจะเป็นเรื่องที่จะมีการตัดสินใจอะไรจริงๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเขาตอนนี้เขาก็จะไม่มานั่งคุยอะไรให้เราเป็นห่วงมากเพราะเขาโตแล้ว ยกเว้นว่าถ้าเป็นเรื่องมีอะไรที่สำคัญต้องคุยก็จะคุย

น้องกายมีแฟนแล้วเหรอ?

ไม่มี เราว่าต้องตกใจนะ (หัวเราะ) ลูกเราผิดปกติอะไร ก็มีค่ะแต่เขาชอบหรือไม่ชอบอะไร ช่าคิดว่ามันเป็นสิทธิส่วนบุคคลของเขา ถึงแม้ว่าเราจะเป็นแม่นะคะ แต่ว่าช่าคิดว่ามันก็ไม่ใช่หน้าที่ที่เราจะต้องไปยั่งกับเขาซะทุกเรื่อง เพราะว่าวันหนึ่งเราต่างคนต่างต้องมีเส้นชีวิตของเรา อย่างช่ามีแฟนกายเขาก็จะให้เกียรติ อย่างกายมีแฟนเราก็ให้เกียรติเขา ยกเว้นว่าถ้าเกิดว่ามันถึงจุดที่มันไม่ไหวจริงๆ ค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้มันยังไม่มีอะไร”

เราหวงลูกชายไหม?

ห่วงค่ะ ช่าเคยบอกตลอดว่าเราห่วง แต่ไม่หวงนะ คือเวลาที่เขาไปทำอะไร บางทีเราหวงมากไปช่าว่ามันก็ไม่ดี เพราะว่าเขาโตแล้ว แต่ห่วงเราก็ห่วงว่าเขาจะตัดการยังไง เขาจะไปเจออะไรบ้าง ช่าว่ามนุษย์แม่เป็นทุกคน ไปถามคุณแม่ทุกคนสิ ทุกคนห่วงลูก แต่มันไม่ใช่หวงว่าใครอย่ามายุ่งนะ มันไม่ใช่ มันจะเป็นลักษณะว่าเราห่วงว่ามันดึกแล้วนะ เป็นอะไรหรือเปล่า ขับรถเป็นยังไง เจออะไรไหม เราก็ธรรมดาของคุณแม่ค่ะ