"ตัวแทน รร.สารสาสน์ฯ" ไม่ร่วมไกล่เกลี่ยกับ "ผู้ปกครอง" ปมเรียกค่าทำร้ายเด็กรายละ 5 ล้าน
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. จากกรณีอัยการสูงสุด นัดผู้ปกครองเด็กนักเรียน และตัวแทนจากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยกรณีครูทำร้ายเด็กนักเรียนภายในโรงเรียน ล่าสุด นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการนัดไกล่เกลี่ยระหว่างผู้ปกครองกับตัวแทนจากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย และเป็นการลดคดีในชั้นศาลหากทั้ง 2 ฝ่ายสามารถเจรจาค่าเสียหายร่วมกันได้ โดยวันนี้อัยการจากสำนักงานอัยการสูงสุด จะทำหน้าที่เป็นคนกลาง แต่ผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ราชพฤกษ ตอบกลับทางจดหมายเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมาว่าขอปฏิเสธการไกล่เกลี่ย โดยแจ้งว่าไม่สมัครใจที่จะพูดคุยและมีความประสงค์ให้ศาลตัดสินค่าความเสียหาย วันนี้สำนักงานอัยการสูงสุดจะหารือร่วมกับคณะทำงานและผู้ปกครอง ซึ่งอาจทำหนังสือเชิญตัวแทนโรงเรียนอีกครั้ง หากโรงเรียนไม่สมัครใจมาไกล่เกลี่ย ก็จะแนะนำช่องทางกฎหมายต่อไป
ด้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เปิดเผยว่า กรณีนี้ผู้ปกครองได้ยื่นเรื่องต่ออัยการเพื่อดำฟ้องคดีทแพ่ง ซึ่งอัยการรับเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และเป็นคดีที่มีการละเมิดสิทธิร้ายแรงต่อเด็กเพื่อไม่ให้โรงเรียนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ส่วนที่ผู้ปกครองเรียกค่าเสียหายเยียวยาสภาพจิตใจเด็กรายละ 5 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนมากกว่า 130 ล้านบาท โดยส่วนตัวมองว่าไม่มากจนเกินไป เพราะแพทย์ไม่สามารถยืนยันได้ว่าอาการของเด็กที่ถูกทำร้ายจะหายจากการหวาดกลัวเมื่อใด ส่วนตัวแทนของโรงเรียนจะมาร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยหรือไม่นั้นคงไม่สำคัญ เพราะอัยการสูงสุดจะดำเนินการฟ้องร้องคดีแพ่งตามขั้นตอนอยู่แล้ว
ขณะที่ ผู้ปกครองเปิดเผยถึงสภาพจิตใจลูกว่า ตอนนี้ยังมีอาการหวาดผวา อารมณ์รุนแรง จนบางครั้งมีการทำร้ายตนเอง ส่วนอีกรายจะปิดประตูห้องทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดัง อยากให้เข้าใจว่าลูกถูกทารุณกรรมและไม่ทราบว่าสภาพจิตใจกลับมาเหมือนปกติเมื่อใด ซึ่งเงินเยียวยา 5 ล้านบาทถือว่าไม่มากหากเทียบกับสภาพจิตใจของลูกและค่ารักษาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่ผ่านมาโรงเรียนได้คืนค่าเล่าเรียน 1 เทอมให้กับผู้ปกครองแล้ว แต่ในเรื่องอื่น เช่น ค่ารักษาทางจิตเวช ทางโรงเรียนยังไม่ได้ช่วยเหลือ ซึ่งถ้าหากทางโรงเรียนออกมารับผิดชอบก่อนหน้านี้ คิดว่ายอดเงินจะไม่สูงมากขนดนี้ แต่โรงเรียนกลับไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ เลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าของคดี ขณะมีการดำเนินคดีครูและบุคคลากรของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ราชพฤกษ ในความผิดฐานทำร้ายร่างกาย และฝ่าฝืน พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ซึ่งศาลแขวงนนทบุรี ได้ทำการฟ้องไปแล้วจำนวน 19 คดี ตัดสินแล้ว 7 คดีในความผิด 13 กระทง มีคำพิพากษาจำคุกความผิดกระทงละ 15 วันโดยไม่รอลงอาญา ส่วนที่เหลือจะทยอยตัดสินคดีต่อไป