“ปลัดแม่่ริม” เร่งรัดคดี “ฌอน” ชี้! “บิณฑ์” อาจเข้าข่าย

2020-11-03 12:15:19

 “ปลัดแม่่ริม” เร่งรัดคดี “ฌอน” ชี้! “บิณฑ์” อาจเข้าข่าย

Advertisement

“ปลัดจอมแฉ” ให้ปากคำตำรวจเร่งดำเนินดคี “ณอน” ชี้ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ก็ผิด พ.ร.บ.เรี่ยไร อาจเข้าข่ายฉ้อโกงมหาชน

จากกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับ “ฌอน บูรณะหิรัญ” ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ที่มีการทำโครงการเกี่ยวกับการรับเงินบริจาค ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แต่กลับถูกเพจเฟซบุ๊กออกมาตั้งข้อสงสัยกรณีเปิดรับเงินบริจาคดับไฟป่าเชียงใหม่ เนื่องจากทีมดับไฟป่าในพื้นที่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากโครงการดังกล่าวเลย จนมีการแจ้งความดำเนินดคีกับนายฌอน ในข้อหา พ.ร.บ.เรี่ยไร คดีฉ้อโกงมหาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามข่าวที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 3 พ.ย. ที่สภ.แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ประธานสมาพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย เจ้าของฉายาปลัดจอมแฉ ได้เดินทางมาพบกับพ.ต.ท.ขจร เรือนคำ สารวัตรสอบสวนสภ.แม่ริม เพื่อนำหลักฐานมาให้เพิ่มเติม รวมถึงให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีที่มีการแจ้งความใน 3 ข้อหาหนัก ทั้งคดี พ.ร.บ.เรี่ยไร ที่ไม่ได้ขอเปิดรับบริจาค คคีฉ้อโกงมหาชน และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งหลังการสอบปากคำ พ.ต.ท.ขจร กล่าวว่า ตอนนี้การสอบสวนปากคำพยานที่เป็นคนบริจาคให้นายณอน โดยตรงในห้วงที่เปิดรับบริจาค และพยานเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่า หมอกควันในพื้นที่แม่ริม ทั้งหมด ตอนนี้ทางตำรวจก็ได้ส่งหนังสื่อไปยัง สภ.ปากเกร็ด เพื่อขอหลักฐานพยาน หลายอย่าง รอแค่ทางสภ.ปากเกร็ด ส่งเอกสารมาให้ ก็จะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายเรียกครั้งที่ 1 เรียกตัวนายฌอน มาสอบปากคำเพื่อเร่งดำเนินการตามกฎหมาย




ด้านนายบุญญฤทธิ์ เปิดเผยว่า สำหรับคดีของนายฌอนนั้น จากหลักฐานพยานทุกอย่างที่ทางอำเภอมีและมอบให้ตำรวจไปหมด ก็ทราบว่า นายฌอน ผิดทุกข้อกล่าว ข้าราชการ ประชาชนในพื้นที่ไฟป่าดอยสุเทพได้ทำหนังสื่อราชการมาที่อำเภอแม่ริมว่า ไม่เคยเห็นหน้านายฌอน หรือไม่เคยได้รับสิ่งของหรือเงินจากนายฌอนในการมาช่วยดับไฟป่าหมอกควันเลย ทุกวันนี้ตัวนายฌอนก็ลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคม วันนี้ก็มาให้ปากคำเพิ่มเติมและเร่งในการดำเนินการเอาผิดเพื่อให้เป็นตัวอย่างที่ดี ต่อไปจะได้ไม่ต้องมีใครโผล่มาใช้สถานการณ์ความเดือดร้อนของประชาชน แล้วรับบริจาคนำเงินไปใช้ส่วนตัวแบบนี้อีก ถือเป็นคดีตัวอย่าง

ทุกวันนี้ก็ได้มีประชาชนหลายรายที่โทรศัพท์มาสอบถามคดีของฌอน เปรียบเทียบกับการรับบริจาคช่วยน้ำท่วม 6 จังหวัดภาคอีสานของบิณฑ์ บรรลือฤทธ์ พระเอกนักบุญ เมื่อปี 2562 ซึ่งมียอดบริจาคสูงถึง 422ล้านบาท เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบทางระบบราชการ ก็ยังไม่พบว่านายบิณฑ์ ได้มีการขออนุญาต หากเจ้าตัวไม่สามารถนำใบอนุญาตขอเรี่ยไรมาแสดงได้ ก็จะมีความผิดลักษณะเดียวกับฌอน ซึ่งทราบว่ามีผู้ที่แจ้งความที่อุบลราชธานีมาก่อนหน้านี้แล้ว และจากที่ดูนายบิณฑ์ ก็ใช้เงินผิดประเภทหลายกรณีไม่ตรงกับที่ขอรับบริจาคและ การเปิดรับบริจาคเรี่ยไรโดยไม่ขออนุญาตเป็นความผิดอาญา และหากมีการตรวจสอบพบนำเงินบริจาคไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ก็จะมีความผิดเพิ่มรวมทั้งคดีฉ้อโกงประชาชน และเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย แต่ต้องดูว่าจะมีผู้เสียหายมากน้อยเพียงใดที่จะเอาเรื่อง