ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในยุโรป เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าใน 5 สัปดาห์ ส่งผลให้ทั่วยุโรปมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 10 ล้านคนแล้วในวันอาทิตย์ จากข้อมูลของสำนักข่าวรอยเตอร์ โดยในเดือนที่แล้ว ทั้งลาติน อเมริกันและเอเชีย ต่างรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อกว่า 10 ล้านคนในแต่ละภูมิภาค ขณะที่สหรัฐประเทศเดียวมีผู้ติดเชื้อกว่า 9 ล้านคน ซึ่งไวรัสระบาดอย่างรวดเร็ว
จากการวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ พบว่า ยุโรปใช้เวลาเกือบ 9 เดือน ทำสถิติมีผู้ติดเชื้อโควิด 5 ล้านคนแรก จากนั้นอีก ก็มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 5 ล้านคนในช่วงเวลาห่างกันเพียงหนึ่งเดือนเล็กน้อยเท่านั้น
ยุโรปมีประชากร 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก และติดเชื้อโควิดคิดเป็นประมาณ 22 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อทั่วโลก 46.3 ล้านคน โดยในยุโรปมีผู้เสียชีวิตจากไวรัส 269,000 คน คิดเป็นประมาณ 23 เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตจากโควิดทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่เกือบ 1.2 ล้านคน
ท่ามกลางผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น ฝรั่งเศส, เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ประกาศล็อคดาวน์ประเทศอีกครั้ง เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน ซึ่งเป็นมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัส เกือบในระดับเดียวกับในเดือนมีนาคม และเมษายนที่ผ่านมา ส่วนโปรตุเกส ล็อคดาวน์เป็นบางส่วน ขณะที่สเปนและอิตาลี ก็กำลังคุมเข้มมากขึ้น
จากการวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ พบว่า ยุโรปรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่มากกว่า 1.6 ล้านคนในช่วง 7 วันที่ผ่านมา เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อทั่วโลก 3.3 ล้านคนในเวลาเดียวกัน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 16,100 คน เพิ่มขึ้น 44 เปอร์เซ็นต์จากสัปดาห์ก่อนหน้า
ประชาชนทุก ๆ 10,000 คนในยุโรป จะมีผู้ติดเชื้อไวรัสมากกว่า 127 คน และประมาณ 4 คน เสียชีวิต ส่วนในสหรัฐมีผู้ติดเชื้อ 278 คน และเสียชีวิต 7 คนต่อประชากร 10,000 คน
ภายในทวีปยุโรป ยุโรปตะวันออก มีผู้ติดเชื้อโควิดเกือบ 1 ใน 3 ซึ่งสูงที่สุดในภูมิภาค ขณะที่ยุโรปใต้ มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดอยู่ที่ประมาณ 32 เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตจากโควิดในยุโรป
รัสเซียถือเป็นประเทศยุโรปตะวันออกที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 1.6 ล้านคน