"พิธา" ขอชาวเชียงรายหนุนร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า

2020-11-01 21:50:07

"พิธา" ขอชาวเชียงรายหนุนร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า

Advertisement

"พิธา" ขอเสียงชาวเชียงรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ทลายทุนผูกขาด 

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่โรงแรม ทีค การ์เดนท์ สปา รีสอร์ท จ.เชียงราย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำคณะก้าวไกลสัญจรภาคเหนือ ร่วมวงเสวนา เกี่ยวกับเศรษฐกิจเชียงรายว่าด้วยการเพิ่มศักยภาพสินค้าการเกษตร ข้าว กาแฟ สับปะรด โดยมี นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย เขต 1 พร้อมด้วย นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ สัดส่วนชาติพันธุ์ และนายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายธิวัชร์ ดำเเก้ว นักวิชาการประจำคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎรและตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมแลกเปลี่ยน


นายพิธา กล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องประชาชนเชียงรายที่ให้ความไว้วางใจกว่า 160,000 คะเเนน จนทำให้ได้ ส.ส.ของพรรคถึง 3 คน รวมทั้งยังมี ส.ส.ในสัดส่วนชาติพันธุ์เข้ามาเป็นตัวแทนจากสัดส่วนบัญชีรายชื่อด้วย โดยเมื่อวันที่ 31 ต.ค. คณะก้าวไกลสัญจรได้เดินทางไปที่ดอยผาฮี้ เพื่อในพูดคุยกับเกษตรปลูกกาแฟซึ่งเป็นผลผลิตต้นน้ำ ส่วนเมื่อช่วงเช้าก็ได้พูดคุยกับเจ้าของร้านกาแฟ ที่รับผลผลิตจากเกษตรกร นั่นคือปลายน้ำ ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด-19  ทำให้ราคาผันผวนมากเป็นพิเศษ ซึ่งการช่วยเหลือของรัฐบาลยังไม่ทั่วถึงเเละไม่ครบวงจร สิ่งสำคัญคือจะทำอย่างไรให้โภคภัณฑ์เหล่านั้นกลายเป็นผลิตภัณฑ์ได้ จุดเเข็งของชาวเชียงรายคือวัตถุดิบหรือมีพืชทางเศรษฐกิจที่สามารถส่งเสริมเพิ่มมูลค่าสินค้าได้จากอัตลักษณ์ชุมชน และยังสามารถพัฒนาเรื่องการค้าชายแดนได้อีกด้วย


นายพิธา ระบุว่า สาเหตุราคาพืชผลเกษตรกรผันผวน เพราะต้องพึ่งกับราคาตลาดโลก ซึ่งเกษตรกรเหล่านี้ถูกทุนผูกขาดตลาดและราคา ทำให้ไม่มีทางเลือกในการจำหน่ายเพื่อให้เพิ่มรายได้ อีกปัญหาสำคัญคือผลกระทบจากราคาต้นทุนโครงสร้าง ซึ่งเกษตรกรที่มาร่วมแลกเปลี่ยนหลายคนเรียกร้องให้มีการประกันราคาข้าว ตรงนั้นคงเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น แต่การแก้ไขปัญหาระยะยาว คือต้องสามารถเพิ่มศักยภาพให้ผลิตภัณฑ์และเกษตรกรสามารถอยู่ได้ด้วยต้นเอง

ในส่วนของสับปะรด นายพิธา กล่าวว่า พบปัญหาเรื่องราคาไม่คงที่ ต้องพึ่งพาธุรกิจแปรรูป ข้อเท็จจริงคือที่ผ่านมามีความพยายามใช้งบประมาณเพื่อพยุงราคาเท่านั้น แต่ไม่มีความพยายามในการแปรรูปสินค้า ปีนี้รัฐบาลใช้เงิน กว่า 75,000 ล้านบาทในการพยุงราคาสินค้าการเกษตร ซึ่งหากนับย้อนไป 10 ปีที่ผ่านมา รวมมูลค่าแล้วก็กว่าล้านๆบาท นั่นคือภาษีของประชาชน


"ในการวิจัยของมหาวิทยาลัยนาโกย่า รัฐบาลญี่ปุ่น สนับสนุนให้มีการวิจัยเกี่ยวกับข้าว 98 ปี ผิดกับรัฐบาลไทย ที่ต้องอาศัยตามขั้นตอนเเละกระบวนการของระบบราชการ นี่คือปัญหา ในส่วนของสับปะรด แนวคิดในการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าสินค้าสอดคล้องกับนโยบายสุราก้าวหน้าของอดีตพรรคอนาคตใหม่ เเละพรรคก้าวไกล ที่มีการผลักดันร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า พ.ศ....ในรัฐสภา ซึ่งตลาดสุรา เบียร์ ในไทยมีมูลค่า 200,000 ล้านบาท เท่ากับราคาตลาดสาเกในญี่ปุ่น ปัญหาของตลาดสุราไทย คือการผูกขาดกับนายทุนใหญ่ เพียงไม่กี่เเบรนด์ เราสามารถนำสับปะรดมาแปรรูปทำไวน์ หรือบรั่นดี ให้เป็นสินค้าชุมชน เพิ่มมูลค่าจากอัตลักษณ์ของเชียงราย สร้างรายได้เเละกระตุ้นเศรษฐกิจได้"นายพิธา กล่าว

นายพิธา ระบุด้วยว่า  เพราะความเหลื่อมล้ำทางอำนาจ ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเเละทรัพยากร การพัฒนาผลผลิตจากโภคภัณฑ์ เป็นผลิตภัณฑ์ด้วยการแปรรูปจากภูมิปัญญาจะเป็นการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด แต่ปัจจุบันยังติดล็อกทางกฎหมาย เรื่องนี้จะผ่านได้หรือไม่อยู่ที่ประชาชนในการสนับสนุน และตนเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์สูงสุดของพี่น้องชาวเชียงราย  งบประมาณของ 29 โครงการที่เกี่ยวกับเกษตร จ. เชียงราย มีมูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท แต่ผ่านงบประมาณประจำปี 64 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท จะเห็นว่าไม่มีกรมใดดูเเลด้านการแปรรูปสินค้าเกษตรเลย หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลเราจะจัดตั้งหน่วยงานที่รับรองงบประมาณในด้านการแปรรูปสินค้าเกษตร เพราะจะเป็นการดูเเลปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างตรงจุด สอดคล้องกับนโยบายเกษตรก้าวหน้า และการปักธงประชาธิปไตย ของอดีตพรรคอนาคตใหม่เเละพรรคก้าวไกลในปัจจุบัน